นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.55 ถึงปัจจุบันมีพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยแล้งแล้ว 30 จังหวัด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในการเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และปฏิบัติการฝนหลวง
ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ใน 33 แห่ง มีปริมาณน้ำร้อยละ 65 และปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้รัอยละ 34 โดยเฉพาะในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิตติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 62 และปริมาณน้ำที่ใช้ได้รัอยละ 34
ทั้งนี้ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งไปแล้ว 25,282 ล้าน ลบ.ม. และได้จัดสรรไปยังพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 17 ล้านไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 15 ล้านไร่ พื้นที่ปลูกพืชผักประมาณ 2 ล้านไร่ นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังประจำปิ 2554/2555 ที่ได้รับความเสียหายจากปัญหาอุทกภัยนั้น ทางการได้ให้ความช่วยเหลือด้านเมล็ดพันธุ์ไปแล้ว 30,598 ตัน ในพื้นที่โดยรวม 3,059 ล้านไร่
สำหรับพื้นที่ประสบภัยแล้งทั้ง 30 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 185 อำเภอ 1,271 ตำบล 12,826 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร ลำปาง ลำพูน สุโขทัย น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงราย เชียงใหม่ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ ขอนแก่น มหาสารคาม บุรีรัมย์ อุดรธานี อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ เพชรบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และปราจีนบุรี