น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์(2012 Seoul Nuclear Security Summit) ซึ่งในวันนี้เป็นการประชุมหารือเต็มคณะ(Plenary Meeting)ซึ่งได้แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเวลา 09.10-11.30 น. และ ช่วงบ่ายเวลา 14.30-16.30 น.ซึ่งผู้นำและตัวแทนจาก 53 ประเทศ (อาทิ ผู้นำสหรัฐฯ จีน รัสเซีย อินเดีย และ ญี่ปุ่น) ร่วมกันหารือในหัวข้อ“National Measures and International Cooperation to Enhance Nuclear Security"ณ ศูนย์ประชุมโคเอ็กซ์ กรุงโซล
นายกฯ กล่าวว่า ไทยในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางทางการค้า และโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องประชาคมอาเซียน และจากผู้ที่อาจจะพยายามใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเพื่อก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์
มาตรการระดับประเทศ ปฏิบัติการระดับภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของโลก ในส่วนของประเทศไทย ได้ปฏิบัติตามกฏระเบียบของสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างเคร่งครัด และกำลังพัฒนาสู่การลงสัตยาบันในเครื่องมือทางกฏหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง สนับสนุนบทบาทกลางของ IAEA หรือองค์กรพลังงานอะตอมระหว่างประเทศ ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางนิวเคลียร์ของโลก และนับตั้งแต่การประชุมสุดยอดวอชิงตัน หรือ Washington Summit ไทยได้เข้าร่วมในโครงการ Global Initiative to Combat Terrorism หรือการริเริ่มของโลกเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายทางนิวเคลียร์ ในปี 2010 และได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหุ้นส่วน ภายใต้กรอบการดำเนินงาน และทางทวิภาคีและข้อริ่เริ่มอื่นๆ เช่น โครงการ Megaports Initiative และ Container Security Initiative
นอกจากนี้ ไทยยังกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าร่วม Proliferation Security Initiative ขณะเดียวกัน ไทยยืนยันการเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการเสริมสร้างความมั่นคงทางนิวเคลียร์
สำหรับในระดับภูมิภาค ไทยได้ริเริ่มการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัย ความมั่นคงปลอดภัยและการพิทักษ์วัสดุนิวเคลียร์ในการใช้พลังงานปรมาณูทางสันติ(INTERNATIONAL CONFERENCE ON SAFETY, SECURITY, AND SAFEGUARDS IN NUCLEAR ENERGY) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งในการประชุมไทยได้เสนอการสร้างเครือข่ายร่างกฏระเบียบนิวเคลียร์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะช่วยให้ภูมิภาคปลอดภัยขึ้นจากการก่อการร้ายทางนิวเคลียร์ ขณะเดียวกัน ไทยกำลังพัฒนาแนวคิดนี้ต่อไปในการประชุมสุดยอดอาเซียนเดือนหน้านี้
นอกจากนี้ การพิสูจน์หลักฐานทางนิวเคลียร์ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอีกเครื่องมือหนึ่ง การทำงานร่วมกับหุ้นส่วนใน Asean Regional Forum ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาเพื่อสร้างศักยภาพและการตระหนักถึงการพิสูจน์หลักฐานทางนิวเคลียร์ในภูมิภาค นอกจากนี้ ไทยกำลังอยู่ในกระบวนการการก่อตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศ เพื่อการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิวเคลียร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับศักยภาพทางเทคนิคในเรื่องสืบค้นทางนิวเคลียร์
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า ที่ประชุมนี้มีเป้าหมายเดียวกันที่จะโลกปลอดจากการก่อการร้ายทางนิวเคลียร์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้โลกปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์ ความพยายามและความตั้งใจร่วมกัน จะเป็นทางสู่โลกที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับลูกหลานต่อไป