นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม เผยหลังนำระบบเทคโนโลยีตรวจจับความเร็ว RFID มาใช้กับรถตู้โดยสารเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาพบว่า มีการตรวจจับรถตู้โดยสารที่ใช้ความเร็วเกิน 90 กม.ต่อชั่วโมง บนเส้นทางดอนเมืองโทลล์เวย์มากที่สุด รองลงมาเป็นทางพิเศษบูรพาวิถี ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และถนนกาญจนาพิเศษ ส่วนทางด่วนขั้นที่ 1 ไม่พบการฝ่าฝืน อาจเป็นเพราะบนทางด่วนขั้นที่ 1 การจราจรแออัด
"ช่วงวันที่ 1-2 เมษาฯ ที่ผ่านมา พบว่ามีรถตู้ที่ฝ่าฝืนรวม 116 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเรียกพนักงานขับรถมาเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท ภายในวันที่ 4 เมษาฯ นี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ในฐานะผู้กำกับดูแลเอกชนร่วมบริการ จะต้องถูกปรับเพิ่มเติมเป็นเงิน 2,000 บาท" นายชัชชาติ กล่าว
ส่วนการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นั้น บขส.ได้ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมกับผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส.ระหว่างวันที่ 6-20 เม.ย.นี้ รวม 15 วัน คิดเป็นมูลค่าวันละ 2 ล้านบาท รวม 30 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และให้ผู้ประกอบการจัดเตรียมรถโดยสารให้เพียงพอกับจำนวนประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับ ขสมก.เตรียมรถปรับอากาศยูโรทูไว้ให้บริการในเส้นทางระยะสั้นกว่า 400 กม.รอบกรุงเทพฯ ซึ่งมีรถสำรองไว้ประมาณ 50 คัน