ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ลวดสลิงสำหรับใช้ในการปรับบานขึ้น-ลง บานประตูระบายน้ำช่องที่ 5 ของเขื่อนนเรศวรขาดและหลุดออกจากจุดยึด ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 9 เม.ย. 55 ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านบริเวณด้านท้ายเขื่อนมีระดับเพิ่มสูงขึ้น และระดับน้ำเหนือเขื่อนลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านด้านเหนือเขื่อนไม่สามารถไหลเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่ของโครงการพัฒนาเกษตรชลประทานพิษณุโลกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนนเรศวร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาดงเศรษฐี และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าบัว
ภายหลังเกิดเหตุการณ์ กรมชลประทาน โดยสำนักชลประทานที่ 3 ได้เร่งดำเนินการนำบานกั้นน้ำชั่วคราว (Bulkhead Gate) จำนวน 5 ท่อนวางซ้อนทับกันปิดด้านเหนือน้ำของช่องที่ 5 เพื่อปิดกั้นน้ำจากทางด้านเหนือเขื่อนไม่ให้ไหลหลากลงสู่ทางด้านท้ายเขื่อน ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน และต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 10 เม.ย. ได้ดำเนินการยกระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนนเรศวร ให้ถึงระดับเก็บกักปกติแล้ว ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านสามารถไหลเข้าสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ของโครงการพัฒนาเกษตรชลประทานพิษณุโลกได้ตามปกติ และยังสามารถควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนนเรศวรได้ตามปกติด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ชลประทาน ได้ดำเนินการค้นพบจุดที่บานระบายจมน้ำแล้ว ซึ่งเป็นบริเวณหินเรียงด้านท้ายน้ำของเขื่อนนเรศวร และขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการหาวิธีนำเอาบานระบายขึ้นมาจากแม่น้ำ
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรมชลประทาน ขอยืนยันว่า เขื่อนนเรศวรมีความมั่นคงแข็งแรงดี ไม่ได้เกิดความเสียหาย เพียงแต่เกิดการชำรุดของบานระบาย 1 ช่องเท่านั้น ซึ่งกรมชลประทาน จะได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วต่อไป