นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่วยงานราชการไปจัดทำแผนการความพร้อมต่อสภาวะวิกฤติ โดยให้ภาครัฐทำแผนเพื่อบูรณาการกับแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ เพื่อมาจัดทำเป็นในการเตรียมความพร้อมระดับชาติต่อไป ซึ่งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐจะต้องเตรียมแผนที่สามารถรองรับในกรณีที่เกิดสภาวะวิกฤติต่างๆเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐสามารถดำเนินการได้ รวมถึงภาคธุรกิจจะต้องไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสภาวะวิกฤตดังกล่าวเหล่านี้ รวมถึงสภาวะวิกฤตที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมืองด้วย
นอกจากนี้ กรณีของแผนบริหารจัดการน้ำ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงส่งรายละเอียดแต่ละโครงการมายังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการแผนทั้งหมด ร่วมกับการทำงานของ คณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โดยนายกรัฐมนตรีให้กำหนดรายละเอียดลงไปในระบบจีพีเอส เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบการทำงานของแต่ละหน่วยงานได้
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการกระทรวงไอซีทีไปตรวจสอบระบบโครงข่ายโทรคมนาคมในกรณีที่อาจเกิดภัยพิบัติ อย่างน้อยต้องสามารถใช้งานได้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์หรือภัยพิบัติต่างๆเพื่อติดต่อเบอร์ฉุกเฉินในทุกกรณี
ส่วนกรณีของภัยแล้ง นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นศูนย์กลางในการดำเนินการในกรณีเกิดภัยแล้ง โดยจะต้องเข้าไปดูแลให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และสามารถผลิตพืชผลทางการเกษตร โดยมอบหมายให้นายยงยุทธไปหารือกับทุกกระทรวงเรือ่งการบริหารจัดการน้ำ เช่น อาจจะนำน้ำจากแก้มลิงมาใช้ในการบริโภคหรือทางการเกษตรได้