รมว.เกษตรฯ คาดโครงการปรับปรุงคันกั้นน้ำ"มโนรมย์-บางโฉมศรี"เสร็จตามแผน

ข่าวทั่วไป Tuesday May 15, 2012 16:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้างานปรับปรุงคันกั้นน้ำใหญ่ ฝายน้ำล้นเขื่อนเจ้าพระยา-เขากระดี่ จังหวัดชัยนาท ซึ่งอยู่ในส่วนของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ที่เสียหายจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 จำนวน 5 จุด ขณะนี้มีความก้าวหน้าร้อยละ 55 โดยคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคมนี้

ขณะที่การฟื้นฟูประตูระบายน้ำบางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี มีความคืบหน้าและเป็นไปตามแผนงาน ทั้งการซ่อมแซมช่องขาด ไซฟอนส่งน้ำและประตูระบายน้ำมีความคืบหน้าร้อยละ 95

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองโครงการจัดอยู่ในพื้นที่กลางน้ำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสกัดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ให้หลากลงสู่จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรีและลพบุรี ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทานจะต้องเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่รัฐบาลได้วางไว้ โดยโครงการช่วงต้นน้ำต้องแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน พื้นที่กลางน้ำให้แล้วเสร็จเดือนมกราคม และโครงการในพื้นที่ปลายน้ำต้องแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม

สำหรับในส่วนของความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำบริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี โดยการสร้างไซฟอนรอดคลองชัยนาท-อยุทยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากเดิม 145 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณดำเนินการปี 2555 — 2556 จำนวน 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้พบว่าล่าช้ากว่าแผนงานโดยอยู่ที่ 11% เนื่องจากทางกรมชลประทานต้องทำทางเบี่ยงเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรไปมาได้ รวมถึงยังต้องมีการส่งน้ำเพื่อภาคการเกษตรในพื้นที่ประมาณ 3 แสนไร่ แต่อย่างไรก็ตาม จะไม่กระทบต่อการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากอย่างแน่นอน

รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำในขณะนี้ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศอยู่ที่ร้อยละ 55 ซึ่งเป็นเกณฑ์ปกติ เนื่องจากช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากเกษตรกรร่วมกันประหยัดน้ำและปลูกพืชฤดูแล้งเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ร่วมกัน และขณะนี้กำลังเข้าช่วงต้นฤดูฝนการบริหารจัดการน้ำช่วงนี้ได้มีการเตรียมน้ำไว้สำหรับเกษตรกรปลูกข้าวนาปี และสำรองไว้สำหรับช่วงที่คาดว่าเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้น้ำในปริมาณมาก โดยยังขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ แม้ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสำคัญ เช่นเขื่อนภูมิพล อยู่ที่ร้อยละ48 เขื่อนสิริกิติ์ร้อยละ 50 ซึ่งเพียงพอสำหรับการจัดสรรในการอุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์และเพื่อการเกษตรตลอดปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ