นางจีรวรรณ แย้มประยูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมความร่วมมือระหว่างไทยกับกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม หรือ IFAD (International Fund for Agricultural Development) ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพด้านการเกษตร และด้านการพัฒนาชนบท สามารถที่จะร่วมกันพัฒนาไปสู่จุดที่ประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่กำลังพัฒนาการเรียนรู้จากประสบการณ์ของไทยนำไปปรับใช้
ดังนั้น การสร้างความร่วมมือในการพัฒนาดังกล่าว IFAD กับไทย จะร่วมกันในลักษณะหุ้นส่วนพันธมิตร เป็นความพยายามครั้งแรกของ IFAD ที่จะดำเนินการร่วมกับประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง โดยจะเน้นใน 3 เรื่อง ได้แก่ การเสริมสร้างสมรรถนะของบุคลากร การจัดการด้านความรู้ และความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน
สำหรับยุทธศาสตร์หุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างไทยกับกองทุนระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม หรือ IFAD ครั้งนี้ ที่คาดว่าจะได้รับความเห็นชอบจากฝ่ายไทยและจาก IFAD ภายในปี 2555 นั้น มีกรอบเวลาการดำเนินงาน 5 ปี คือ ระหว่างปี 2555-2559 ซึ่งเป้าหมายโดยรวมของความร่วมมือระหว่างไทย-IFAD ก็เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการลดความยากจนและสร้างความมั่นคงด้านอาหารของชุมชนในชนบทของประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ โดยเพิ่มการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาการเกษตร การส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคและอนุภูมิภาค และเพิ่มสมรรถนะ/ยกระดับสถาบันเกษตรกรในระดับรากหญ้า
นางจีรวรรณ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับวัตถุประสงค์หลักเชิงยุทธศาสตร์หุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างไทยและ IFAD มี 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.มุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างสมรรถนะของไทยให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมทางการเกษตรและพัฒนาชนบทของภูมิภาค และ 2.มุ่งเน้นในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนาด้วยกัน (South-South Cooperation) โดยมีประเทศเป้าหมายจะสอดคล้องกับเป้าหมายของสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งจะผ่านรูปแบบความร่วมมือใน 4 รูปแบบ คือ 1.IFAD ให้ความช่วยเหลือไทย ในการลดความยากจนและพัฒนาชนบท โดยการเสริมสร้างสมรรถนะของศูนย์เรียนรู้ชุมชน (เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เกษตรกรและชาวชนบท ชาวเขา และชุมชนต่างๆ 2) ไทยร่วมมือกับ IFAD ในการช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ผ่านทางการฝึกอบรม ดูงานทั้งในไทยและในประเทศที่สาม หรือ ดำเนินการภายใต้กรอบ South-South Cooperation 3) สร้างเครือข่ายการวิจัยร่วมกับประเทศในภูมิภาคและอนุภูมิภาคในการขจัด และรับมืออุปสรรค หรือประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และ 4) ส่งเสริมความร่วมมือในโครงการพิเศษต่างๆ โดยร่วมมือกับองค์การ/สถาบันผู้ให้อื่นๆ เช่น FAO, ADB, ฯลฯ นอกเหนือจากความร่วมมือระหว่างไทยกับ IFAD