หนังสือพิมพ์จาการ์ตา โพสต์รายงานว่า นายโจโค เคอร์มันโต รัฐมนตรีสาธารณสุขของอินโดนีเซียกล่าวว่า อินโดนีเซียได้รับการจัดอันดับว่าเป็นประเทศที่มีสุขอนามัยต่ำสุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียน
"แน่นอนว่าเราไม่ได้อยู่ในอันดับแย่ที่สุด แต่เราก็มีความเป็นอยู่ที่แย่ที่สุด ถ้าลองดูข้อมูลของ UNICEF ของปี 2554 จะพบว่า 26% ของประชากรอินโดนีเซียยังคงขับถ่ายในที่โล่งแจ้ง" นายเคอร์มันโตกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จากการสำรวจพบว่า 76.3% ของแม่น้ำ 53 สายในชวา สุมาตรา บาลี และสุลาเวสีปนเปื้อนอินทรียวัตถุ และมีแม่น้ำ 11 สายที่ปนเปื้อนสารแอมโมเนีย
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้นายเคอร์มันโตเปิดเผยว่าอินโดนีเซียยังอยู่ห่างไกลจากการเข้าถึงสุขอนามัย ขณะเดียวกันก็กล่าวว่า เพื่อให้ตามทันประเทศอื่นๆ รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปรับปรุงให้สุขอนามัยและการจัดการของเสียทั่วประเทศดีขึ้น
"ไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดในด้านสุขอนามัย การทุ่มทุนในด้านสุขอนามัยถือเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างมาก ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านรูเปียห์ต่อปี (ประมาณ 315,498 ดอลลาร์สหรัฐ)" นายเคอร์มันโตกล่าว
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ความพยายามเหล่านี้จะไร้ประโยชน์ หากขาดการส่งเสริมจากภาคประชาชนในการสร้างพฤติกรรมด้านสุขอนามัยที่ดีขึ้น
"ต้องกำจัดนิสัยที่สกปรกทิ้งไป จากนี้ประชาชนควรเข้าใจว่าไม่ควรทิ้งขยะเรี่ยราด และไม่ควรขับถ่ายในสถานที่ต่างๆ ตามอำเภอใจ เช่นการขับถ่ายลงแม่น้ำ" นายเคอร์มันโตกล่าว