นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขสั่งการให้สถานบริการสาธารณสุขใน 5 จังหวัดภาคใต้ ตั้งแต่โรงพยาบาลศูนย์จนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลเตรียมเครื่องมือเวชภัณฑ์ในการดูแลผู้ป่วย และเฝ้าระวังผู้เจ็บป่วยจากการสูดควันไฟจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าบนเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ทำให้มีหมอกควันพัดมาปกคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส หนาแน่น
โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่มีความเสี่ยงจะเกิดอาการหลังสูดละอองควันไฟ เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ หอบหืด ผู้สูงอายุและเด็ก โดยสั่งการให้สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ส่งหน้ากากอนามัยให้ 5 จังหวัด จังหวัดละ 12,000 ชุด เพื่อแจกจ่ายประชาชนใส่ป้องกัน และให้กรมควบคุมโรค สำรองไว้ที่ส่วนกลางอีก 50,000 ชุด เนื่องจากคาดว่า สถานการณ์นี้จะยังไม่ยุติง่าย
ด้านนายแพทย์สุวิช ธรรมเปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ค่าฝุ่นละอองในพื้นที่ 5 จังหวัดขณะนี้ยังไม่เกินมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ปริมาณของฝุ่นละอองใน 5 จังหวัดมากน้อยขึ้นอยู่กับทิศทางลมและปริมาณฝนที่ตกลงมา จากการเฝ้าระวังผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจในโรงพยาบาลขนาดเล็กและใหญ่ พบว่ายังไม่ส่งผลกระทบชัดเจน เฉลี่ย 50-100 คนต่อวันต่อแห่ง ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากในฤดูฝนมีผู้ป่วยเป็นหวัดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผลการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดอาการของระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่อาการเล็กน้อย เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก จนถึงอาการรุนแรง เกิดอาการเจ็บหน้าอก หลอดลมอักเสบ ในรายที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เมื่อเกิดหลอดลมอักเสบหรือปอดบวม จะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นจนอาจเกิดหัวใจวายได้
นายแพทย์สุวิช กล่าวต่อว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการหลังสูดฝุ่นละอองควันไฟ ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษมี 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่นโรคกล้ามเนื้อหัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจวาย 2.โรคระบบทางเดินหายใจทุกชนิด เช่น โรคปอดบวม โรคภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด 3.ผู้สูงอายุ เนื่องจากมักมีประจำตัวเช่นโรคหัวใจและโรคปอดแฝงอยู่มาก และ 4.เด็ก เพราะมีการเคลื่อนไหวมาก อัตราหายใจสูง ร่างกายกำลังเติบโต หากเกิดอาการแน่นหน้าออก หายใจลำบาก ขอให้ไปพบแพทย์
ในการป้องกันไม้ให้สูดฝุ่นละอองควันไฟเข้าสู่ร่างกาย ประชาชนไม่ควรออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง และให้อยู่ในบ้าน โดยปิดหน้าต่าง ปิดประตู ด้านที่รับลม ซึ่งพัดหมอกควันลอยเข้าสู่ภายในบ้าน และเปิดทางด้านตรงข้ามกับทิศทางลม กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดแล้วบ้วนทิ้งวันละ 3-4 ครั้ง งดการสูบบุหรี่ และควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อขับฝุ่นละอองออกจากร่างกาย หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใช้หน้ากากอนามัยหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดจมูก สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและทางเดินหายใจ ควรอยู่ในบ้าน เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม