จำนวนผู้ป่วยจากไวรัสเวสต์ไนล์ในรัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสชนิดนี้แล้ว 2 ราย
กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลของรัฐลุยเซียนาประกาศเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ป่วยใหม่จำนวน 21 รายซึ่งได้รับเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ในขณะนี้มียอดผู้ป่วยด้วยไวรัสชนิดนี้จำนวน 53 ราย ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงสุดตั้งแต่ปี 2550
นอกจากนี้ ทางกระทรวงยืนยันว่ามีพลเมืองของรัฐลุยเซียนาเสียชีวิตแล้ว 2 ราย จากไวรัสเวสต์ไนล์ซึ่งเข้าไปทำลายระบบประสาท โดยไวรัสชนิดนี้เป็นไวรัสที่อันตรายมากที่สุด เนื่องจากทำให้เกิดการบวมของสมองและไขสันหลัง จนทำให้ระบบประสาทถูกทำลายและไม่สามารถรักษาได้
ในขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยซึ่งระบบประสาทถูกทำลายมีจำนวน 29 รายในรัฐลุยเซียนา ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2549 และเป็นจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 16 รายในสัปดาห์ก่อน
นับตั้งแต่ต้นปี 2555 ผู้ป่วยด้วยไวรัสเวสต์ไนล์มีจำนวนทั้งหมด 241 รายทั่วอเมริกา โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 4 ราย
ทั้งนี้ ไวรัสเวสต์ไนล์ มักเกิดในภูมิภาคที่มีอากาศอบอุ่นและร้อนชื้น โดยมีการค้นพบไวรัสชนิดนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2480 ในประเทศยูกันดา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ในอนุภูมิภาคแม่น้ำไนล์ตะวันตก (West Nile sub-region)
โดยไวรัสดังกล่าวมักจะถูกพบในนก การแพร่เชื้อไวรัสชนิดนี้สู่คนจะผ่านทางการโดนยุงกัด ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ 80% ไม่แสดงอาการใดๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน