เหลือเวลาอีกไม่กี่วันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก เกมส์ 2012 ก็จะปิดฉากลงแล้ว พร้อมกับชื่อของ "ฮีโร่" ที่จะได้รับการจารึกและจดจำคู่กับลอนดอน เกมส์ รวมถึงการแข่งขันโอลิมปิกทุกยุค ทุกสมัย ไปตลอดกาล
เหรียญโอลิมปิกเหรียญแรกของเขาเกิดขึ้นในค่ำคืนหนึ่งของเดือนสิงหาคม เมื่อ 8 ปีก่อน ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับของกรุงเอเธนส์ และเหรียญที่ 22 ซึ่งเป็นเหรียญล่าสุดและเหรียญสุดท้าย เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้หลังคาโค้งของศูนย์กีฬาทางน้ำ ลอนดอน อควาติกส์ เซ็นเตอร์
คืนนั้น “ไมเคิล เฟลปส์" ว่ายท่าผีเสื้อ อันเป็นท่าถนัดของเขา เข้าแตะขอบสระเป็นคนแรก พร้อมกับพลิกสถานการณ์ ช่วยให้ทีมชาติสหรัฐจากที่ตามอยู่ในอันดับ 2 กลับขึ้นมาแซงเป็นผู้นำและคว้าเหรียญทองผลัดผสม 4x100 เมตร ซึ่งเป็นเหรียญสุดท้ายที่ชิงชัยกันสำหรับการแข่งขันว่ายน้ำที่ลอนดอน เกมส์ ได้สำเร็จ
ในเวลาเดียวกัน ฉลามหนุ่มวัย 27 ปี เจ้าของฉายา “The Baltimore Bullet" ยังสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักกีฬาที่มีเหรียญโอลิมปิกในครอบครองมากที่สุดในโลกถึง 22 เหรียญ จากการแข่งขันโอลิมปิก 3 สมัย ตั้งแต่เอเธนส์ ปักกิ่ง ถึงลอนดอน
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา เมื่อถึงเวลาที่เฟลปส์กล่าวคำอำลาการแข่งขันโอลิมปิก คู่แข่ง และแฟนๆ รวมไปถึงอาชีพที่เขารักและทำให้เขาเติบโตขึ้น จากเด็ก “สมาธิสั้น" ที่ค้นพบว่า “น้ำ" ช่วยให้เขาจัดการกับ “พลัง" ที่ล้นเหลือของตนเองได้อย่างถูกที่ ถูกทาง
การแข่งขันผลัดผสม 4x100 เมตร เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการแข่งขันรายการสุดท้ายปิดฉากการแข่งขันว่ายน้ำ 8 วันในลอนดอน เกมส์แล้ว ยังถือเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายก่อนอำลาสระของเฟลปส์ด้วย
แม่และพี่สาวของเขา ซึ่งนั่งเชียร์อยู่บนอัฒจันทร์ ซับน้ำตาแห่งความปลื้มปีติ ขณะที่โค้ช บ๊อบ โบว์แมน เข้าสวมกอด พร้อมกล่าวกับลูกศิษย์ที่เขาฝึกสอนและดูแลมาตั้ง 11 ขวบว่า “เราทำได้แล้ว" ก่อนที่เฟลปส์จะตอบกลับมาว่า “ครับ เราทำได้"
เหรียญทอง 4 เหรียญ และเหรียญเงินอีก 2 เหรียญ จากการลงแข่งขันทั้งหมด 7 รายการในลอนดอน เกมส์ ได้ทำให้เขาสร้างตำนานเจ้าสระอีกครั้ง หลังจากที่คว้า 8 เหรียญทองในปักกิ่ง เกมส์ เมื่อ 4 ปีก่อน และ 6 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดงในเอเธนส์ เกมส์ เมื่อ 8 ปีก่อน ส่งให้เขาก้าวขึ้นเป็นฮีโร่โอลิมปิกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ด้วยสถิติเหรียญรวม 22 เหรียญ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทองถึง 18 เหรียญ
หากจะกล่าวว่าโอลิมปิกครั้งนี้เป็นโอลิมปิกของ ไมเคิล เฟลปส์ ก็คงจะไม่เกินไปนัก
“ผมคิดว่าคงจะดี ถ้าหากในอนาคต เมื่อมองย้อนกลับมา ผมสามารถพูดได้ว่า ผมได้ทำทุกอย่างที่อยากทำแล้ว" เฟลปส์ ซึ่งเปิดตัวในโอลิมปิกครั้งแรกที่ซิดนีย์ เกมส์ 2000 ขณะมีอายุได้เพียง 15 ปี กล่าว
“มันเป็นตอนจบที่ยอดเยี่ยมสำหรับการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ถึงเวลาที่ผมจะต้องบอกลา" เฟลปส์กล่าว “ผมพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางบทใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น"
ลอนดอน ความสงสัย และความกดดัน
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ณ กรุงเอเธนส์ นครหลวงแห่งอารยธรรมตะวันตก ในคืนแรกของการแข่งขันว่ายน้ำในสระแบบเปิดหลังคา เฟลปส์สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรกให้ตัวเองได้สำเร็จ แถมยังเป็นเหรียญทองแรกที่มาพร้อมกับการทำลายสถิติโลก แต่นั่นเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เมื่อเขาสามารถทำลายสถิติโลก 36 รายการ และสถิติโอลิมปิก 16 รายการ แถมยังคว้าแชมป์โลกอีก 26 รายการ นอกเหนือไปจาก 22 เหรียญโอลิมปิกดังที่กล่าวมาแล้วด้วย
สำหรับในการแข่งขันลอนดอน เกมส์ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะสงสัยว่า ยังมีความยิ่งใหญ่อะไรรอคอยเฟลปส์อยู่อีกหรือ แล้วฉลามหนุ่มจากบัลติมอร์รายนี้จะมีแรงกระตุ้น แรงขับเคลื่อน หรือแรงผลักดันอะไรที่จะนำเขาผงาดสร้างชื่ออีกครั้งเหมือนกับที่เคยทำได้มาแล้วเมื่อ 4 ปี และ 8 ปีก่อน นับเป็นการผสมผสานระหว่างความสงสัย สับสน และอารมณ์อันหลากหลาย ซึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นแรงกดดันอันหนักอึ้งที่เฟลปส์ต้องแบกไว้
ความสงสัยและแรงกดดันยิ่งทวีคูณ เมื่อเขาพลาดคว้าเหรียญทองแรก โดยปล่อยให้หลุดไปอยู่ในมือของไรอัน ลอชที ฉลามหนุ่มรุ่นน้องที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงและเป็นหนึ่งในความหวังใหม่ของสหรัฐ ในขณะที่แชมป์เก่าอย่างเขาเข้าแตะขอบสระเป็นคนที่ 4 ในการแข่งขันประเภทเดี่ยวผสม 400 เมตร แถมยังทำหล่นหายไปอีก 2 เหรียญในการแข่งขันผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร และผีเสื้อ 200 เมตร ซึ่งถือเป็นรายการถนัดของเขา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ปล่อยโอกาสหลุดลอยไปหลายครั้งหลายหน ในที่สุด เฟลปส์ก็กลับมาคืนฟอร์มได้สำเร็จในการแข่งขันเดี่ยวผสม 200 เมตร และผีเสื้อ 100 เมตร พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักว่ายน้ำชายคนแรกที่สามารถคว้าเหรียญทองได้จากการแข่งขันรายการเดียวกันในโอลิมปิก 3 สมัยซ้อน
ชัยชนะในการแข่งขันเดี่ยวผสม 200 เมตร ช่วยให้เฟลปส์เก็บเหรียญทองเหรียญแรกในลอนดอน เกมส์มาครองได้ในที่สุด แต่กว่าเหรียญที่เขารอคอยจะมาถึง ก็เล่นปาเข้าไปวันที่ 6 ของการแข่งขันว่ายน้ำ จากโปรแกรมชิงชัยเหรียญทั้งหมด 8 วัน คำว่า “โล่งอก” จึงอธิบายความรู้สึกของเขาได้ดีที่สุด หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า “มาช้ายังดีกว่าไม่มา"
“มันเป็นเรื่องยาก แต่ก็เป็นอะไรที่พิเศษ ผมทำพลาดไปในการแข่งขันรายการแรกๆ ดังนั้นการที่สามารถทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน จึงเป็นเรื่องที่เจ๋งมาก" เฟลปส์กล่าวถึงการคว้าเหรียญทองโอลิมปิก ผีเสื้อ 200 เมตรได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน
แต่แน่นอนว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ เฟลปส์ต้องอดทนและฝ่าฟันอะไรมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการกินและการออกกำลังกายตามโปรแกรมอย่างเคร่งครัด ผลที่ได้ก็คือ อกผายไหล่ผึ่ง และช่วงตัวที่ยาวกว่าขา ซึ่งเป็น “หุ่น" ที่เรียกได้ว่าออกแบบมาสำหรับการเคลื่อนไหวในน้ำอย่างแท้จริง
ฟ้าหลังฝน
เมื่อปี 2001 เฟลปส์กลายเป็นเจ้าของสถิติโลกอายุน้อยที่สุดในการแข่งขันผีเสื้อ 200 เมตร ด้วยวัยเพียง 15 ปี ก่อนที่จะมาโด่งดังสุดๆในการแข่งขัน ปักกิ่ง เกมส์ เมื่อเขาคว้าคนเดียวถึง 8 เหรียญทอง ทำลายสถิติเดิม 7 เหรียญทองที่มาร์ก สปิตซ์ ฉลามหนุ่มรุ่นพี่ชาวอเมริกันทำเอาไว้ในโอลิมปิก เกมส์ 1972 ที่นครมิวนิค ประเทศเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น เฟลปส์ขอพักเบรคจากตารางการฝึกซ้อมอันหนักหน่วงและแสนจะน่าเหนื่อยหน่าย จนกระทั่งเขาถูกลงโทษจากทีมว่ายน้ำสหรัฐด้วยการระงับการแข่งขันเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อเขาถูกจับภาพได้ขณะสูบกัญชา
ในช่วงเวลานั้น เฟลปส์แบกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเกือบ 7 กิโลกรัม และท้อใจจนเกือบตัดสินใจอำลาสระ แต่หลังจากเวลาผ่านพ้นไป เขาก็กลับมา และตั้งเป้าอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิมที่ลอนดอน เกมส์ 2012
มองในอีกแง่หนึ่ง ชีวิตที่ขึ้นๆ ลงๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อาจช่วยให้เฟลปส์คลายความกดดันเรื่องความสมบูรณ์แบบ และทำให้เขามีเวลาย้อนกลับมาพิจารณาดูตัวเอง จนกระทั่งตัดสินใจกลับเข้าร่วมฝึกซ้อมและติดทีมว่ายน้ำสหรัฐที่เต็มไปด้วยฉลามหนุ่มและเงือกสาวระดับพระกาฬได้ในที่สุด
“เมื่อการแข่งขันจบลง มันกระทบความรู้สึกผมมาก" เฟลปส์กล่าวทั้งน้ำตา “มันเป็นอาชีพที่ยาวนาน ถึงเวลาแล้วที่ผมจะก้าวขึ้นจากสระ"
อนาคต เด็ก และฉลาม
มีคำถามมากมายว่า เหตุใดเฟลปส์จึงตัดสินใจเลิกแข่งทั้งที่อายุอานามก็เพิ่งจะ 27 เท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าเขาไม่มีความปรารถนาที่จะลงแข่งโอลิมปิก เกมส์ในอีก 4 ปีข้างหน้าที่กรุงริโอ เดอ จาเนโรจะเป็นเจ้าภาพ เพราะได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากทำไปหมดแล้ว
สำหรับก้าวต่อไปในอนาคต ฉลามหนุ่มรายนี้ไม่เปิดเผยอะไรมากนัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาแย้มให้ฟังว่า เขามีแผนที่จะทำงานร่วมกับเด็กๆ โดยหวังที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้บรรดาน้องๆหนูๆได้
“อาชีพของผมเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การตั้งเป้าหมาย ผมหวังว่า ผมหวังว่าจะแสดงให้เด็กๆและใครก็ตามในโลกได้เห็นว่าอะไรก็เป็นไปได้ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ จงเชื่อในตัวเอง"
“ผมไม่กลัวว่าชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มันอาจจะสนุกก็ได้ ผมว่ายน้ำมา 20 ปี และประสบความสำเร็จอย่างที่ผมต้องการทั้งหมดแล้ว ผมอยากสนุกกับชีวิตบ้าง"
หนึ่งในแผนการระยะสั้นของเฟลปส์ก็คือการกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อเหรียญรางวัล แต่เขากำลังเตรียมตัวเดินทางไปยังแอฟริกาใต้โดยมี แชด เลอ ครอส นักว่ายน้ำเจ้าถิ่น เป็นไกด์กิตติมศักดิ์
เลอ ครอส อาจจะเป็นคู่แข่งของเฟลปส์ในสระ เพราะเพิ่งแย่งเหรียญทองในการแข่งขันผีเสื้อ 200 เมตรไปจากเขาได้ แต่ในชีวิตจริงทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน โดยเฟลปส์เผยว่า พวกเขามีแผนที่จะไปดำน้ำเพื่อลงไปใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวกับฉลามขาว
“ผมอยากไปดำน้ำ และจะเข้าไปอยู่ในกรงเพื่อให้อาหารฉลามแบบระยะประชิด เราพูดกันถึงเรื่องนี้มาตลอดทั้งสัปดาห์"
ฟังดูแล้วอาจเป็นการผจญภัยที่เสี่ยงไปสักหน่อยสำหรับใครหลายคน แต่นั่นไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเฟลปส์ เพราะอย่าลืมว่าเขาก็ได้ชื่อว่า “ฉลาม” เหมือนกัน แถมยังเป็นฉลามที่มีเหรียญโอลิมปิกคล้องคอเป็นเครื่องการันตีอีกด้วย