สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) คาดการณ์ว่า ฤดูเฮอร์ริเคนแอตแลนติกในปี 2555 นี้ จะรุนแรงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นและปรากฏการณ์เอลนินโญเที่เกิดขึ้นล่าช้า จะทำให้เกิดการก่อตัวของพายุในระดับใกล้เคียงปกติไปจนถึงระดับมากกว่าปกติ
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างอิงจากแนวโน้มล่าสุดของ NOAA เมื่อเดือนพฤษภาคมว่า มีโอกาส 50% ที่ฤดูเฮอร์ริเคนปีนี้จะใกล้เคียงกับปกติ ส่วนโอกาสที่จะเกิดพายุในระดับมากกว่าปกติเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 35% และโอกาสที่จะเกิดพายุน้อยกว่าปกติลดลงเหลือเพียง 15%
ศูนย์พยากรณ์สภาวะอากาศของ NOAA คาดการณ์ว่า ตลอดระยะเวลาหกเดือนของฤดูกาล ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมิถุนายน จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน จะเกิดพายุโซนร้อน 12-17 ลูก (ความเร็วลมสูงสุด 39 ไมล์/ชม. หรือมากกว่า) ซึ่งในจำนวนนี้จะมีพายุ 2-8 ลูกที่อาจทวีกำลังเป็นเฮอร์ริเคน (ความเร็วลมสูงสุด 74 ไมล์/ชม. หรือมากกว่า) และ 2-3 ลูกอาจจะยิ่งทวีความรุนแรงเป็นเฮอริเคนขนาดใหญ่ (ในระดับ 3,4, หรือ 5 โดยความเร็วลมอย่างต่ำ 111 ไมล์/ชม.)
เจอร์รี เบลล์ หัวหน้านักพยากรณ์เฮอร์ริเคนประจำฤดูกาลให้สัมภาษณ์ที่ศูนย์พยากรณ์สภาวะอากาศว่า "เรากำลังมีโอกาสที่จะเผชิญกับฤดูกาลพายุมากกว่าปกติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากลักษณะของลมที่เอื้อต่อการก่อตัวของพายุ และอุณหภูมิผิวน้ำทะเลที่อุ่นกว่าปกติในมหาสมุทรแอตแลนติก"
"ภาวการณ์ดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับช่วงการเกิดพายุเฮอร์ริเคนในมหาแอตแลนติกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มขึ้นในปี 2538 นอกจากนี้ การก่อตัวที่แข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลยังบ่งชี้ถึงฤดูกาลที่รุนแรงขึ้นด้วย"
บรรดานักพยากรณ์อากาศประจำฤดูกาลยังระบุด้วยว่า มีแนวโน้มจะเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญขึ้นในเดือนสิงหาคมหรือเดือนกันยายน
"เอลนินโญเป็นปัจจัยที่สามารถสกัดการทวีความรุนแรงของพายุได้ เนื่องจากจะทำให้เกิดลมพัดรุนแรงในแนวดิ่งทั่วแอตแลนติก แต่อิทธิพลของเอลนินโญนี้น่าจะมีในช่วงหลังๆของฤดูกาลแล้ว" นายเบลล์กล่าว