ผลสำรวจเผย"โอบามา"ได้คะแนนต่ำในด้านจัดการเศรษฐกิจ

ผลสำรวจแกลลัพ โพลล์ได้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าชาวอเมริกันยังคงให้คะแนนที่ระดับต่ำสำหรับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในด้านการจัดการเศรษฐกิจและยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศ แต่คะแนนในส่วนของการต่อต้านการก่อการร้ายและนโยบายต่างประเทศนั้นอยู่ในระดับสูง

ผลสำรวจดังกล่าวที่จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชนวัยผู้ใหญ่จำนวน 1,012 คนนั้น พบว่า 60% ของชาวอเมริกันไม่เห็นด้วยกับการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของปธน.โอบามา ขณะที่มีประชาชนเพียง 36% ที่เห็นด้วย ส่วนในด้านการสร้างงานนั้น ชาวอเมริกัน 58% ไม่พอใจกับการดำเนินการของปธน.โอบามา โดยมีประชาชน 37% แสดงความพึงพอใจ

ประเด็นยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางคือส่วนที่ปธน.โอบามาได้คะแนนความพึงพอใจต่ำสุดที่ 30% เมื่อเทียบกับอีก 64% ที่ไม่พอใจ ในส่วนของนโยบายด้านการอพยพเข้าเมืองนั้น ปธน.โอบามาได้คะแนนความชื่นชอบเพียง 38% และมีผู้ที่ไม่พอใจ 54%

แกลลัพระบุในรายงานฉบับหนึ่งว่าตัวเลขคะแนนนิยมดังกล่าวคล้ายคลึงกับในปี 2554 และต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2555 โดยมีเพียงคะแนนนิยมในส่วนของการต่อต้านการก่อการร้ายที่ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 58% จากระดับสูงสุดที่ 63% ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมาหลังจากการสังหารนาย มูฮัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย นอกจากนี้คะแนนนิยมสำหรับนโยบายการศึกษาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 49% จาก 41% ในเดือนสิงหาคมของปีก่อน

จากกระแสที่แกลลัพรวบรวมข้อมูลได้ คะแนนนิยมของผู้นำสหรัฐในด้านนโยบายเศรษฐกิจนั้นอยู่ในระดับต่ำที่สุดในบรรดาผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 3 สมัยที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันในสมัยแรกของการดำรงตำแหน่ง

คะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจของปธน.โอบามาที่ 36% นั้นถือว่าต่ำกว่าทั้งอดีตปธน.จอร์จ ดับเบิลยู บุชที่คะแนน 46% ในเดือนสิงหาคม ปี 2547 อดีตปธน.บิล คลินตันที่คะแนน 54% ในเดือนสิงหาคม ปี 2539 รวมถึงนายโรนัลด์ เรแกนที่ 50% ในเดือนกรกฎาคม ปี 2527

อย่างไรก็ตาม คะแนนนิยมด้านเศรษฐกิจของปธน.โอบามานั้น ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าคะแนนของนายจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุชที่ 18% ในเดือนกรกฎาคม ปี 2539 และคะแนนนิยมด้านกิจการต่างประเทศที่ระดับ 48% ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดเทียบกับบรรดาประธานาธิบดี 6 สมัยที่ผ่านมาในช่วงระยะการปฏิบัติงานเดียวกันนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน