ผลสำรวจเปิดเผยว่า 18.2% ของชาวอเมริกันประสบปัญหารายได้ไม่เพียงสำหรับรายจ่ายค่าอาหารในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างอิงจากแกลลัพโพลล์ว่า กรณีที่แย่ที่สุดคือ 1 ใน 4 ของประชาชนในรัฐมิสซิสซิปปี้ของสหรัฐระบุว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารให้ตนเองและครอบครัวได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง
ประชาชนในรัฐอัลลาบามาและรัฐเดลลาแวร์ก็อยู่ในข่ายที่มีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าอาหารเช่นกัน ในขณะที่ประชาชนในรัฐนอร์ทดาโกตา เซาท์ดาโกตา และ เวอร์มอนท์ มีโอกาสน้อยมากที่จะเผชิญปัญหานี้
ผลสำรวจชี้ว่า ใน 15 รัฐของสหรัฐจะมีประชาชนอย่างน้อย 1 ใน 5 ระบุว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โดยประชาชนที่อยู่ในรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้น่าจะเผชิญกับปัญหาดังกล่าวมากที่สุด ในขณะที่ประชาชนแถบเมาท์เท่น เพลนส์ และตอนกลางฝั่งตะวันตกจะพบปัญหานี้น้อยที่สุด
แกลลัพคาดว่า ภัยแล้งในปี 2555 ซึ่งรุนแรงที่สุดนับแต่ช่วง 2403-2413 นี้ ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรกว่า 80% ของสหรัฐอเมริกา และผลักดันราคาอาหารให้เพิ่มขึ้นในเดือนถัดไป เนื่องจากความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรจากภัยแล้งน่าจะทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและราคาที่พุ่งสูงขึ้น
กระทรวงเกษตรของสหรัฐคาดการณ์ว่า ราคาเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่และอาหารประจำวันจะเพิ่มสูงขึ้นภายในสองเดือน ส่วนผลกระทบจากราคาข้าวโพดสำหรับอาหารกระป๋องและอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นจะใช้เวลาประมาณ 10-12 เดือนก่อนจะปรากฎผลบนชั้นของซูเปอร์มาร์เก็ต
ผลสำรวจนี้ทำการสำรวจจากผู้ใหญ่ชาวสหรัฐ 177,662 คน ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมิถุนายน