นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า สถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันมีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด 11 อำเภอ 28 ตำบล ได้แก่ ระยอง พิจิตร ตาก สระแก้ว และเพชรบูรณ์
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจ.สุโขทัยนั้น มีสาเหตุจากคันกั้นน้ำชำรุด ทำให้น้ำทะลักเข้าเมือง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 12-15 ก.ย.นี้ ร่องมรสุมจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยกลับมามีฝนเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
แต่ยืนยันว่า ในปีนี้ปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำท่ายังต่ำกว่าปีก่อน โดยปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่ำกว่าปีกอ่น 20% ส่วนปริมาณน้ำท่าจ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 1,829 ล้านลบ.ม./วินาที ขณะที่ในเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 3 พันล้านลบ.ม.
"ปริมาณน้ำท่ายังไม่เกินความจุของลำน้ำ...ขณะที่ปีที่แล้ว ฝนตกหนัก บวกกับมีน้ำในเขื่อนปล่อยออกมาด้วย"
ส่วนกรณีที่มีน้ำท่วมเป็นการชั่วคราวในพื้นที่ลุ่มต่ำเพียงบางแห่ง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บริเวณคลองโผงเผงและคลองบางบาลที่มีปริมาณน้ำ 381 ลบ.ม./วินาที(ความจุลำน้ำ 800 ลบ.ม./วินาที) และ 114 ลบ.ม.(ความจุลำน้ำ 400 ลบ.ม./วินาที) ตามลำดับ
ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 33 แห่งทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 45,184 ล้าน ลบ.ม. ยังความสามารถในการรับน้ำได้อีก 24,967 ล้าน ลบ.ม.