ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.ยังไม่พบปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำแต่อย่างใด ถึงแม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่า 1 เมตรแต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่มีปัญหา สำหรับปริมาณน้ำฝนที่ผ่านมา มีปริมาณ 130-150 มล. กทม.ยังสามารถระบายน้ำได้ โดยในเส้นทางหลักอาจต้องใช้เวลา 2-3 ชม. และในพื้นที่เส้นทางรอง ชุมชน และหมู่บ้านอาจต้องใช้เวลานานกว่านั้น แต่ก็ยังสามารถระบายได้ดี
ทั้งนี้ต้องติดตามสถานการณ์ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ปริมาณน้ำสูงอย่างใกล้ชิดต่อไป อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กทม.ได้ประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้กับประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 27 ชุมชน ให้เฝ้าระวังติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
นายพิจิตต รัตตกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช กล่าวถึงมาตรการการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำของ กทม.ว่า กทม.และสำนักการระบายน้ำ ได้มีการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี แต่ปัญหาน้ำปีที่แล้วเกิดจาก กทม.ไม่มีประสบการณ์เรื่องน้ำหลากและน้ำทุ่ง ที่ผ่านมา กทม.บริหารจัดการเฉพาะน้ำฝนและน้ำจากแม่น้ำ ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำบางปะกง มากกว่าน้ำหลากและน้ำทุ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้ว่าจุดอ่อนของ กทม.อยู่ตรงไหน
สำหรับวันนี้เป็นห่วงปริมาณน้ำฝน เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือ ละน้ำทุ่งปีนี้ไม่หนักเท่าปีที่แล้ว โดยพบปริมาณน้ำไหลผ่านภาคกลาง 3,000 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณน้ำมากถึง 12,000 ล้าน ลบ.ม. ต้องติดตามปริมาณน้ำฝนที่ตกใต้เขื่อนกับที่ตกในพื้นที่ กทม.อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการเพื่อเตรียมการรองรับเป็นอย่างดีแล้ว รวมทั้งในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ทุ่งตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำด้วย คาดว่าจะไม่เกิดปัญหาเช่นปีที่แล้ว
นอกจากนี้ นายพิจิตต กล่าวด้วยว่า การทรุดตัวของดินก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำการสำรวจแล้วพบว่าพื้นที่ กทม.มีการทรุดตัวไปเรื่อยๆ จริง บางพื้นที่ระดับต่ำกว่าระดับน้ำทะเล เช่น ถนนรามคำแหง จำเป็นต้องคำนึงถึงระบบท่อระบายน้ำ ความสูงของปากท่อ และความสามารถในการรองรับการทรุดตัวของดินได้มากขนาดไหน ปัญหาดินทรุด ทำให้ปากท่อระบายน้ำลอยตัวขึ้น น้ำไม่สามารถระบายได้ ดังนั้น กทม.ควรต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบท่อ โดยคำนึงว่าพื้นที่มีการทรุดตัวมากกว่ากัน ตนเองในฐานะของประชาชนคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะอดีตผู้ว่าฯ กทม.เห็นว่า กทม.มีการดำเนินนโยบายที่ดี และคนกรุงเทพรู้จักคลองต่างๆ และระบบการระบายน้ำดีมากขึ้น ซึ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและ ภาคต่างๆ จะมีส่วนสำคัญให้การแก้ไขปัญหาน้ำประสบผลสำเร็จดียิ่งขึ้น