นายพิพัฒน์ เรืองงาม ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) แถลงสถานการณ์น้ำประจำวันนี้ โดยระบุว่า สภาวะอากาศร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่จะทำให้บริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนเกือบทั่วไปและตกหนักมากในบางพื้นที่ ซึ่งปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดที่ จ.ตราด 84.9 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำหลักทั่วทุกภาคส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง ยกเว้นพื้นที่ลุ่มที่รับน้ำที่ยังมีหลายพื้นที่น้ำล้นตลิ่งหรือต่ำกว่าตลิ่งและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ ลุ่มน้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แม่น้ำสุพรรณบุรี(ท่าจีน) อ.บางเลน และ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แม่น้ำปราจีนตอนบน เทศบาลเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว และแม่น้ำบางปะกงตอนบน อ.กบินทร์บุรี และ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
ด้านน.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ(ศภช.) กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์เฝ้าระวังในวันนี้ เนื่องจากมีฝนตกหนักบางแห่ง ต้องเฝ้าระวังน้ำบริเวณ อ.อรัญประเทศ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว อ.กบินทร์บุรี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ระดับน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำจนทำให้น้ำท่วมเป็นวงกว้างและแนวโน้มระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณน้ำฝนอาจทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี จะเข้าสู่ภาวะปกติได้ใน 2-3 วัน หากไม่มีฝนเติมลงมา
นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และบางพื้นที่ของ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด อาจได้รับผลกระทบจากดินโคลนถล่ม ซึ่งขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าไปแล้ว และยังต้องเฝ้าระวังต่อไป
ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ต้องระวังน้ำท่วมขังจากการระบายน้ำไม่ทัน เนื่องจากในวันนี้จะยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องและจะตกหนักในเวลา 15.00 น. จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารเป็นระยะ แต่อย่าตระหนกตกใจ ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นช่วงหน้าฝน ซึ่งในพื้นที่เดิมที่มีน้ำท่วมขังขอให้ติดตามสถานการณ์ เนื่องจากการระบายน้ำอาจจะช้ากว่าปกติ เพราะมีปัญหาเรื่องขยะมูลฝอยที่ตกค้างในพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่นิติบุคคล ซึ่งทางราชการไม่สามารถเข้าไปทำความสะอาดได้
ดังนั้น จึงขอฝากประชาชนว่าเมื่อปีที่ผ่านมาหากใครนำกระสอบทรายหรือสิ่งปฏิกูลต่างๆไปอุดไว้บริเวณใด ให้ช่วยกันชี้จุดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดหรือช่วยกันเอาออก เพื่อให้การไหลของน้ำดีขึ้น ทั้งนี้ขอยืนยันว่าสถานการณ์น้ำเกิดจากปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่เป็นหลักซึ่งไม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ เพราะในลำน้ำและคูคลองมีปริมาณน้ำลดลงโดยเฉพาะในแม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้น้ำบนดินไหลลงคูคลองลำบาก หากฝนตกลงมาหนักในวันนี้พื้นที่นอกคันกั้นน้ำใน จ.ปทุมธานี ก็อาจจะได้รับผลกระทบในพื้นที่เดิม เช่น เขตดอนเมือง, สายไหม, ลำลูกกา และบริเวณที่เป็นรอยต่อในเขตรังสิต เนื่องจากมีสิ่งปฏิกูลอุดตัน