ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ระบุถึงสถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมว่า น้ำจากจังหวัดสุโขทัยได้ไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำในเขตอ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และอ.เมือง จ.พิษณุโลก พื้นที่มากกว่า 60,000 ไร่ กรมชลประทาน ได้เร่งการระบายน้ำจากแม่น้ำยมสายเก่าผ่านคลองผันน้ำ DR.2.8 และ DR.15.8 ลงสู่แม่น้ำน่าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ส่วนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำจำนวน 19 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่โดยเร็วแล้วเช่นกัน
ในส่วนของสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี น้ำที่ไหลหลากลงมาจากทางตอนบน ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีบริเวณ อ.เมืองปราจีนบุรี ยังคงเพิ่มสูงขึ้น คาดการณ์ว่าหากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งที่ลุ่มต่ำ ในเขตอ.เมืองปราจีนบุรีได้ภายใน 1 — 2 วันนี้
อย่างไรก็ตาม โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้แจ้งข้อมูลสถานการณ์น้ำให้กับทางจังหวัดทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือไปก่อนหน้านี้แล้ว หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะแจ้งให้ทราบต่อไป
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด ณ เวลา 10.00 น.วันนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ 1,739 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,590 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.08 เมตร ลดลงเล็กน้อยจากวานนี้ ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,635 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่าตลิ่ง 2.77 เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 1,664 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (รับน้ำได้สูงสุด 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจุดนี้ยังเป็นจุดวัดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านเข้าสู่กรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย) ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.42 เมตร
"แนวโน้มสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังทรงตัว แต่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำจากทางตอนบน ซึ่งกรมชลประทานยังคงเร่งดึงน้ำจากตอนบนให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ระบายลงสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง"กรมชลประทาน ระบุ