น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการนโยบายน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กนอช.) เปิดเผยว่า ในขณะนี้กำลังเฝ้าจับตาการก่อตัวในทะเลจีนใต้ที่อาจจะเกิดเป็นพายุได้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากเข้ามาทางเวียดนาม อาจจะส่งผลภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โดยจะมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
"แนวโน้ม(การก่อตัวของพายุ)มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น น่าจะลูกหนึ่งทางทะเลจีนใต้ คาดว่าน่าจะมีการก่อตัวน่าจะได้เห็นในอาทิตย์หน้า"น.อ.สมศักดิ์ กล่าว
ส่วนสถานการณ์น้ำในภาพรวมขณะนี้ดีขึ้นในทุกพื้นที่ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือในลุ่มน้ำบางปะกง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งระดับน้ำในอ.เมืองปราจีนบุรี ต่ำกว่าตลิ่ง 17 เซนติเมตร และ ในอ.ศรีมหาโพธิ์ และอ.กบินบุรี มีระดับน้ำทรงตัว และเริ่มลดลง
ส่วนสภาพอากาศขณะนี้ฝนได้เบาบางลง และเคลื่อนตัวสู่ภาคเหนือ ซึ่งอาจจะทำให้ระดับน้ำทรงตัวหรือสูงขึ้นในพื้นที่ จ.สุโขทัย อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อ.สามงาม จ.พิจิตร แต่ยังไม่ผลกระทบใดๆ
สำหรับระดับน้ำในคลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งแล้ว ขณะที่น้ำท้ายเขื่อน จ.ชัยนาทได้มีการปล่อยอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที สำหรับระดับน้ำตลอดแนวลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีระดับต่ำลงกว่าตลิ่งเป็นเมตร
ส่วนสถานการณ์ของฝนจะลดลง แต่อาจกลับมาใหม่ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. เป็นพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคเหนือ ขณะที่พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเช่นเดียวกันคือพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งจะมีปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ จ.พังงา ระนอง แต่พื้นที่ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอาจจะมีผลกระทบทำให้ดินอุ้มน้ำ และทำให้มีการเคลื่อนตัวของดินในพื้นที่เส้นทางของ จ.ชุมพร ระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา จะมีผลกระทบทำให้มีปัญหาในเส้นทางการจราจร
น.อ.สมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า การบริหารจัดการน้ำไม่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน แต่ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ที่มีปริมาณมากทำให้การไหลของน้ำมีผลกระทบ ซึ่งการระบายของน้ำได้ดำเนินการตามขั้นตอน แต่ขณะนี้มีผลกระทบในเรื่องของขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล ขวางทางน้ำ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างล่าช้า
ส่วนการบริหารจัดการน้ำในช่วงปลายน้ำนั้นได้มีการผันน้ำในทางภาคตะวันตกและภาคตะวันออก โดยผันน้ำไปยังคลองระพีพัฒน์ ซึ่งเป็นการร้องขอของประชาชนในพื้นที่ที่ทำน้ำข้าวฟางลอย สำหรับปริมาณน้ำฝนที่มาจากทางตอนเหนือของจ.นนทบุรี ปทุมธานี ไหลลง กทม. ทำให้น้ำในคลองมหาสวัสดิ์ สูงขึ้นประมาณ 120 เซนติเมตร ซึ่งทางกทม.ได้เตรียมเรือผลักดันน้ำในพื้นที่ และรัฐบาลได้ให้กองทัพเรือเสริมเรือและเครื่องผลักดันน้ำตามลำคลองต่างๆ ของกทม. เพื่อช่วยให้การไหลของน้ำเร็วขึ้น อาทิ คลองลาดพร้าว คลองมหาสวัสดิ์
ขณะเดียวกัน ในวันพรุ่งนี้ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จะเดินทางตรวจลำน้ำในเวลา 8.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่ท่าน้ำกรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด ไปยังเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ไปคลองบ้านพร้าว ไปบางบาล ถึงเขื่อนเจ้าพระยา นครสรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพื่อไปดูในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีผลกระทบ