ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า ได้เร่งระบายน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกและ จ.ฉะเชิงเทรา หลังพบระดับน้ำด้านอกและด้านในประตูระบายน้ำหนองจอกบริเวณสถานีสูบน้ำคลองแสนแสบ—หนองจอกอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่กำหนดไว้ 30 เซนติเมตร(ซม.) โดยระดับน้ำวันนี้ด้านนอกประตูอยู่ที่ 1.68 เมตร จากที่กำหนดไว้ 1.30 เมตร ส่วนระดับน้ำในประตูอยู่ที่ 1.06 เมตร จากที่กำหนดไว้ 90 ซม.
"ระดับน้ำทั้งด้านนอกและด้านในประตูสูงกว่าที่กำหนดไว้เฉลี่ยประมาณ 30 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงจึงเร่งระบายออกโดยเร็วแต่ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวหลังนำคณะผู้บริหาร กทม.ลงพื้นที่ตรวจประตูระบายน้ำหนองจอกบริเวณสถานีสูบน้ำคลองแสนแสบ—หนองจอก
สำหรับสถานีสูบน้ำดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน มีเครื่องสูบน้ำทั้งหมด 20 เครื่อง มีอัตราสูบสูงสุด 4,147,200 ลบ.ม./วัน โดยสถานีสูบน้ำดังกล่าวนี้จะรับน้ำจากประตูระบายน้ำคลองแสนแสบตอนประชาร่วมใจแล้วระบายออกทางสถานีสูบน้ำบางขนากลงสู่บางปะกง และผ่านสถานีสูบน้ำท่าไข่ลงคลองนครเนื่องเขตต่อไป
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า กทม.มีความห่วงใยประชาชนอย่างยิ่งเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่จึงเร่งดำเนินการระบายน้ำโดยเร็วเพื่อให้ประชาชนได้รับความผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งความร่วมมือของ กทม.กับกรมชลประทานจะช่วยให้การดำเนินการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในวันพรุ่งนี้(21 ก.ย.) จะมีการประชุมร่วมกันเพื่อหารือแนวทางการดำเนินการอย่างเป็นระบบต่อไป
ส่วนกรณีการจ่ายเงินเงินเยียวยาน้ำท่วมนั้น กทม.ได้เร่งดำเนินการจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ได้เสนอขอรับเงินเยียวยาจากรัฐบาลเพิ่มเติมจำนวน 1,100 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายให้ประชาชนที่ตกหล่นและได้ยื่นคำร้องขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กทม.ได้ดำเนินการลอกท่อระบายน้ำที่อยู่ในความดูแลเรียบร้อยหมดแล้ว ส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ คลองลาดพร้าว คลองบางซื่อ และบึงมักกะสันนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาล