นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในคลองลาดพร้าวที่ขณะนี้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นว่า เนื่องจากรับการระบายน้ำมาจากจังหวัดปทุมธานี และลำลูกกา เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ทางตอนบนของกรุงเทพฯ ซึ่งหากมีฝนกระหน่ำในพื้นที่กรุงเทพฯ อาจทำให้ถ.รัชดาภิเษก ห้วยขวาง และเหม่งจ๋ายได้รับผลกระทบและต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำมากขึ้น แต่หากเปรียบเทียบสถิติการระบายน้ำท่วมขังในอดีตตั้งแต่ปี 2538 จะเห็นได้ว่ากทม.สามารถระบายน้ำออกจากผิวจราจรได้เร็วขึ้น จากเดิมต้องใช้เวลาเป็นเดือน ลดระดับลงเป็นสัปดาห์
"ปัจจุบันใช้เวลาระบายน้ำท่วมขังประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขณะที่ปกติปริมาณฝนกรุงเทพฯเฉลี่ยทั้งปี 1,500 มิลลิเมตร หรือเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 125 มิลลิเมตร แต่เฉพาะเดือนกันยายน 55 ปรากฏว่าปริมาณฝนเฉลี่ยเกิน 500 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าการระบายน้ำทำได้ดีขึ้น แต่อาจจะไม่ทันใจประชาชน" รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
พร้อมระบุว่า ในปัจจุบันกทม.ยังประสบปัญหาแผ่นดินทรุด ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจพบว่าบริเวณสะพานหัวช้างช่วงตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอสพบดินทรุดประมาณ 50 ซม. และริมสะพานหัวช้างดินทรุด 30 ซม. ทำให้ระดับถนนใกล้ระดับน้ำมากขึ้นและต้องใช้เวลาในการระบายน้ำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในอนาคต กทม.จะต้องกำหนดนโยบายในการปรับปรุงท่อระบายน้ำจากเดิม 60 มิลลิเมตรเป็น 100 มิลลิเมตร เพื่อการรับน้ำได้มากขึ้น แม้ว่าจะใช้งบประมาณเยอะแต่ก็ต้องทำเพราะมีความจำเป็น ในส่วนของอุโมงค์ระบายน้ำพระราม 9 ได้ออกแบบให้เดินเครื่องระบบบอัตโนมัติ 3 เครื่อง และสำรองไว้ 1 เครื่อง ขณะนี้ได้เปิดเดินเครื่องเต็มระบบ 4 เครื่อง พร้อมทั้งประสานงานกับกรมชลประทานในการเดินเครื่องสูบน้ำเต็มประสิทธิภาพทุกจุด เพื่อเร่งการระบายน้ำจากพื้นที่กรุงเทพฯ สู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าระดับปฏิบัติงานได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีเงินเยียวยาน้ำท่วมด้วยว่า กทม.จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ประชาชนไปแล้วจำนวนกว่า 1,900 ล้านบาทตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ โดยกทม.ได้นำเอกสารการยืนยันการจ่ายเงินชี้แจงแก่ตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเดินทางมาพบที่ศาลาว่าการกทม.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม กทม.ได้รับแจ้งจากสมาชิกสภากรุงเทพมหานครว่า หากรัฐบาลยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะไม่จ่ายเงินเยียวยาน้ำทวมในส่วนที่ยังขาดให้แก่กรุงเทพมหานคร สภากรุงเทพมหานครจะเปิดประชุมสภาฯ สมัยประชุมสามัญ ในเดือน ต.ค.นี้ พร้อมทั้งเสนอข้อบัญญัติให้กรุงเทพมหานครสามารถจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมโดยใช้การจ่ายขาดเงินสะสมของกรุงเทพมหานครเพื่อเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมทั้งเร่งผลักดันข้อบัญญัติดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.