นายพิพัฒน์ เรืองนาม ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการบริหารจัดการน้ำ ในสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) กล่าวถึงสถานการน้ำว่า ในภาพรวมกลับเข้าสู่ภาวะปกติเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง อยู่ในระดับที่น้อยหรือต่ำกว่าตลิ่ง เว้นแต่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ. บางระกำ จ. พิษณุโลกและอ. เมือง ปราจีนบุรี ที่ยังคงล้นตลิ่ง 19 เซนติเมตร แต่มีระดับที่ทรงตัว แต่คาดว่าภายใน 2-3 วันนี้ ระดับน้ำจะลดลงและเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้านปริมาณฝนในไทย ล่าสุดอยู่ที่ 1,208 มิลลิเมตร น้อยกว่าปีที่ที่แล้วร้อยละ 21 ซึ่งนับจากเดือนนี้ ทุกภาคของประเทศจะมีปริมาณฝนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนพายุไต้ฝุ่นเจอราวัตที่เพิ่มระดับความเร็วลมจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ได้เคลื่อนตัวขึ้นเหนือไปยังไต้หวัน ไม่ส่งผลกับประเทศไทย เช่นเดียวกับพายุดีเปรสชั่น ที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกกำลังเคลื่อนไปญี่ปุ่น ไม่ส่งผลกับประเทศไทยเช่นกัน
ส่วนเรื่องสถากนารณ์ภัยแล้งนั้น นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ ทั้งเขื่อนภูมิพลและสิริกิตติ์ ซึ่งขณะนี้มีน้ำร้อยละ 61 ของความจุอ่าง และคาดการณ์ว่าช่วงสิ้นสุดฤดูฝน จะมีน้ำเพิ่มเป็น ร้อยละ 80 ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการทำการเกษตรและใช้ในฤดูแล้งของปีถัดไป และมีพื้นที่กักเก็บเพียงพอหากมีฝนหลงฤดูเข้ามา