พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานีว่า เป็นการกระทำของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับอีกกลุ่มที่ออกมามอบตัว เชื่อว่าเป็นการแสดงศักยภาพให้ดูยิ่งใหญ่และมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีผู้หญิงมุสลิมร่วมก่อเหตุด้วยนั้นยังเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป
ขณะเดียวกันยอมรับว่า การมอบตัวของกลุ่มก่อความไม่สงบจำนวนหนึ่งนั้น อาจไม่สามารถทำให้สถานการณ์ชายแดนใต้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จะเป็นการทำให้สถานการณ์ค่อยๆ ดีขึ้น
สำหรับการปรับโครงสร้างของศูนย์ปฏิบัติการของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.)นั้น ต้องรอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศก่อน แต่ตนได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)แล้วว่าน่าจะให้ใช้โครงสร้างเดิมของศปก.จชต.ไปก่อน
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังระบุถึงการพิจารณาออก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ภาคใต้ว่า ยังเหลือระยะเวลาอีก 3 เดือน ก่อนหมดอายุการประกาศใช้ ซึ่งได้ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า เป็นผู้ประเมินผลว่าในพื้นที่ใดมีเหตุระเบิดมากน้อยเพียงไหน และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ยกเลิกทั้งหมด แต่ประชาชนควรต้องให้ความร่วมมือในการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการสุ่มเสี่ยงเหตุรุนแรง
ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และว่าที่เลขาธิการ สมช.คนใหม่ เสนอให้ยกเลิกการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ภาคใต้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เป็นแนวความคิดในแนวเดียวกับตนเอง ซึ่งหากพื้นที่ใดที่ได้รับความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ก็อยากให้ยกเลิก แต่การมีกฎหมายพิเศษเป็นเพียงการบังคับใช้กฎหมายให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้เร็วขึ้นเท่านั้น