ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำและแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า เนื่องจากในช่วงที่มีผ่านมามีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้งด้านตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพฯ
โดยค่าเฉลี่ยน้ำฝนตั้งแต่วันที่ 4-23 ก.ย.55 มากกว่า 500 มิลลิเมตร หรือมีปริมาณน้ำรวมทั้งหมด 444 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักครึ่งเขื่อน แต่กทม.สามารถระบายน้ำได้เป็นที่น่าพอใจ ไม่มีน้ำท่วมขังในพื้นที่เกิน 1 วัน ส่วนการระบายน้ำบนถนนสายหลักสามารถระบายน้ำกลับสู่สภาวะปกติได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ทั้งนี้เป็นผลจากการทำงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกทม.ทุกคนอย่างเต็มที่
"ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมากทม.ได้พัฒนาระบบระบายน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม กทม.ต้องย้ำว่าหากฝนตกเกิน 60 มิลลิเมตร จำเป็นต้องใช้เวลาในการระบายน้ำ และต้องขออภัยที่เกิดน้ำท่วมขังในบางจุดด้วย นอกจากนี้ กทม.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนัก แต่ปริมาณน้ำจะไม่เท่ากับช่วง 20 วันที่ผ่านมา ซึ่งกทม.และกรมชลประทานได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งผันน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด"ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
ด้านนายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวยืนยันว่า กทม.และกรมชลประทานได้ประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารจัดการน้ำในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อีกทั้งประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ทุกครั้ง เพื่อการบริหารจัดการน้ำร่วมกันตามแผน ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีปัญหาในการทำงานแต่อย่างใด โดยขณะนี้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำทุกจุดในระดับที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับน้ำในพื้นที่ตามที่กำหนดไว้ อีกทั้งเตรียมพร้อมรับและทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง สถานการณ์ทั้งจากน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน