นายพิพัฒน์ เรืองงาม ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) เปิดเผยข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมขององค์การนาซ่า ระบุพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวังภัยน้ำท่วมสำหรับประเทศไทยที่อาจเกิดน้ำท่วมขึ้นได้ ภาคเหนือ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี, ภาคกลาง 15 จุงหวัด ประกอบด้วย จ.นครปฐม, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สมุทรปราการ, กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ลพบุรี, ชัยนาท, อ่างทอง, สระบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ประกอบด้วย จ.เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, อุดรธานี, หนองบัวลำภู, สกลนคร, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, ร้อยเอ็ด,ชัยภูมิ, มหาสารคาม, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์ และศรีสะเกษ ภาคตะวันออก 8 จังหวัด ประกอบด้วย จ.สระแก้ว, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครนายก, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด และภาคใต้ 3 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กระบี่, นครศรีธรรมราช และตรัง
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิตต์ และเขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีปริมาณน้ำเก็บกับ 1.4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 61.2 ซึ่งสามาถรองรับน้ำได้จนถึงปลายฤดูฝน และเก็บกักน้ำได้ร้อยละ 80 เชื่อว่าเพียงพอต่อการใช้ในฤดูแล้ง
สถานการณ์น้ำเหนือ ในแม่น้ำสายหลักส่วนใหญ่ปริมาณน้ำน้อยกว่าตลิ่ง แต่บางพื้นที่ เช่น อำเภอบางระกำ จ.พิษณุโลกน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.99 เมตร แต่สถานการณ์ยังทรงตัว ส่วนที่อำเภอบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมขังบางพื้นที่ ขณะที่ จ.ปราจีนบุรี น้ำเริ่มลดลงตามลำดับ หากมีฝนตกก็ไม่น่าเป็นห่วง
สำหรับพื้นที่ กทม.คาดว่า จะมีฝนตกหนักใน กทม. ร้อยละ 70-90 ในวันที่ 25-30 ก.ย.นี้ ซึ่งกทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมการแก้ปัญหาน้ำท่วมขังไว้แล้ว ส่วนพายุใต้ฝุ่นเจอลาวัต บริเวณภาคตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวไปเกาะไต้หวัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าในสิ้นเดือนกันยายนนี้ปริมาณฝนจะลดลง และในบางพื้นที่ เช่น ภาคอีสานอุณหภูมิลดลง และเริ่มมีอากาศเย็น ส่วน กทม.จะเริ่มมีอากาศเย็นในเดือนตุลาคม