นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบต่อท่าทีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ที่จะเสนอให้มีการจัดตั้งสำนักงานศูนย์ประสานงานอาเซียนทางด้านโรคระบาดสัตว์และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (ASEAN Coordinating Centre for Animal Health and Zoonoses : ACCAHZ) ในประเทศไทย ตามที่ กษ. เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง กษ. รายงานว่า “ศูนย์ประสานงานอาเซียนทางด้านโรคระบาดสัตว์และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน" (ASEAN Coordinating Centre for Animal Health and Zoonoses : ACCAHZ) มีหน้าที่ประสานงานระหว่างประเทศในภูมิภาค องค์การระหว่างประเทศ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการควบคุมป้องกันและกำจัดโรคระบาดในภูมิภาค
และประเทศไทยมีความเหมาะสมในทุกด้าน และในเดือนกันยายน 2555 จะมีการประชุม Special Senior Official Meeting of the 34th Meeting of the ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry (Special SOM-34th AMAF) ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งประเทศไทยต้องแสดงท่าทีและยืนยันความพร้อมในการเสนอจัดตั้งสำนักงาน ACCAHZ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน
อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งสำนักงานศูนย์ประสานงานอาเซียนทางด้านโรคระบาดสัตว์และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน (ASEAN Coordinating Centre for Animal Health and Zoonoses : ACCAHZ) ในประเทศไทย มีลักษณะเป็นความตกลงระหว่างประเทศและสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยประเทศไทยจะได้รับประโยชน์ ดังนี้ แสดงบทบาทความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคในด้านการควบคุม ป้องกัน และกำจัดโรคระบาดสัตว์
อีกทั้ง สำนักงาน ACCAHZ ในประเทศไทย ตามกรอบที่ได้กำหนดไว้จะเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพในการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เช่น งบประมาณ ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันกำจัดโรคระบาดสัตว์ นอกจากนี้สามารถกำหนดแนวทางในการพัฒนาและการควบคุมโรคในระดับภูมิภาค อันจะเกิดผลดีในการป้องกันโรคที่อาจแพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศไทยได้ เช่น โรคไข้หวัดนก โรคปากและเท้าเปื่อย เป็นต้น
ทั้งนี้ การจัดตั้งสำนักงาน ACCAHZ ในประเทศไทยจะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลง ซึ่งบันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเป็นการลงนามระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศตามมาตรา 2 ข้อ (a) ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญาระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย จึงต้องเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ