ศูนย์เตือนภัยฯ เผยกทม.อาจมีฝนตกหนักช่วงบ่ายถึงค่ำ อาจเกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำ

ข่าวทั่วไป Wednesday September 26, 2012 12:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้พื้นที่ กทม.และปริมณฑล จะมีปริมาณฝนตกหนักมากขึ้น จึงอาจเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ที่เป็นทางไหลผ่านของน้ำ โดยมีการติดตั้งเรือผลักดันน้ำเพื่อให้มีการระบายน้ำได้เร็วขึ้น แต่ยังคงมีขยะเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำและการระบายน้ำจากท่อลงไปยังคลองต่างๆ นั้นทำได้ช้าเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำด้วย แต่ก็จะสามารถระบายได้ภายใน 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้กรมชลประทานได้ประสานกับกทม.เพื่อเร่งระบายน้ำ โดยการผันน้ำบางส่วนเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยฝั่งตะวันออก ระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลองสอง ประตูน้ำคลองแสนแสบ ประตูน้ำคลองประเวศน์ ระบายน้ำผ่านอุโมงค์ระบายน้ำและสถานีสูบน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด ทั้งสภาพการจราจร และผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำอาจเกิดปัญหาน้ำล้นตลิ่ง โดยอาจเกิดน้ำขังในบางพื้นที่แต่ก็จะสามารถ

สำหรับสภาพอากาศโดยรวมในวันนี้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย จะเกิดตกชุกหนาแน่น ส่วนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีจะฝนตกหนักในระหว่างวันที่ 26-30 ก.ย.55 โดยเฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และ จ.กระบี่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นดังกล่าวติดตามสถานการณ์และการแจ้งเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ราบเชิงเขาให้ระวังดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก

ส่วนประชาชนที่จะเดินทางไปประเทศใต้หวันและญี่ปุ่นในวันที่ 28 ก.ย.55 ให้ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนตัวของพายุ 2 ลูก คือ พายุไต้ฝุ่น"เจอลาวัต"ที่จะเคลื่อนตัวเข้าประเทศไต้หวันในวันที่ 28 ก.ย.55 และพายุโซนร้อน"เอวิเนียร์"จะเคลื่อนตัวเข้าประเทศญี่ปุ่นในวันเดียวกัน

ขณะที่นายพิพัฒน์ เรืองนาม ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ(สบอช.) กล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักอยู่ในภาวะปกติ มีเพียงแม่น้ำยมที่มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งอยู่ 1.97 เมตร และมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจ.นครสวรรค์มี 1,429 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของความจุลำน้ำและจะผ่านเข้าเขื่อนเจ้าพระยาที่ 1,453 ลบ.ม./วินาที เป็นครึ่งหนึ่งของความจุเช่นกัน จึงอยู่ในระดับที่ไม่มีปัญหาในลำน้ำสายหลัก

ส่วนระดับน้ำใน อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 21 ซ.ม.และยังล้นตลิ่งอยู่ 44 ซ.ม.และกำลังเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่จ.ปราจีนบุรี ระดับน้ำลดลง 16 ซ.ม.และยังล้นตลิ่งอยู่ที่ 1.36 ม. ทั้งนี้ กรมชลประทานได้มีลดการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านฯ เพื่อให้แม่น้ำบางปะกงสามารถรับน้ำจากปราจีนบุรีได้มากขึ้น และได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่องไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจ.ปราจีนบุรีแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ