ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า สำนักการระบายน้ำรายงานว่าสถิติฝนตกในกทม.เดือนก.ย.นี้ สูงมาก มากกว่าในรอบ 50 ปี และสูงเป็นเท่าตัวจากค่าเฉลี่ยของปี 54 และปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภายใน 20 กว่าวันที่ผ่านมา มีน้ำกว่า 444 ล้าน ลบ.ม. เท่ากับน้ำครึ่งหนึ่งของเขื่อนป่าสักที่มีปริมาณน้ำเต็มเขื่อนเท่ากับ 960 ล้าน ลบ.ม.
ดังนั้น ฝนที่ตกหนักลงมาแบบหนักๆ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นบางพื้นที่(เพราะบางพื้นที่ เป็นพื้นที่ต่ำ เป็นแอ่งรับน้ำ)แต่ กทม.สามารถระบายได้ และไม่ได้ท่วมขังข้ามวันเหมือนสมัยก่อน
“ปริมาณน้ำฝนในเดือนกันยายนนี้มีมากเท่ากับครึ่งหนึ่งของเขื่อนป่าสัก ซึ่งสูงมากในรอบ 50 ปี ปริมาณน้ำเยอะขนาดนี้ ยังไงก็ต้องขอระยะเวลาในการระบายน้ำออกไปครับ"ผู้ว่าราชการ กทม.กล่าว ส่วนที่อุโมงค์พระราม 9 ได้ทำงานอย่างเต็มกำลัง โดยรับน้ำมาจากคลองลาดพร้าวและคลองแสนแสบ ทำหน้าที่ระบายน้ำท่วมขังในเขตบึงกุ่ม ห้วยขวาง ลาดพร้าว วังทองหลาง บางกะปิ จตุจักร มีนบุรี บางซื่อ สะพานสูง และ คันนายาว เพื่อลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนฝนตกหนักมาก ทาง กทม.จึงได้เปิดเครื่องสูบน้ำทั้ง 4 เครื่อง เมื่อน้ำลดจึงได้เปิด 3 เครื่องเพื่อให้ทำงานต่อเนื่องกันไป เพราะ กทม.ยังต้องเปิดประตูระบายน้ำ เพื่อช่วยจังหวัดทางด้านบนระบายน้ำออกทะเลอีกด้วยครับ