นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) ยืนยันปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ กทม.ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนสูงจากการที่มีฝนตกหนัก ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำให้กลับคืนสู่ภาวะปกติราว 2-3 ชั่วโมง
"ปริมาณน้ำฝนรายเดือนประจำเดือนกันยายน 2555 วัดได้สูงถึง 842.5 มิลลิเมตร ซึ่งหากเทียบกับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีที่วัดได้ประมาณ 1,500 มิลลิเมตรแล้ว นับว่าปริมาณน้ำฝนเดือนกันยายนเพียงเดือนเดียวสูงกว่าครึ่งของปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปี จึงส่งผลให้เกิดปัญหาในการระบายน้ำ เนื่องจากระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครรองรับปริมาณน้ำฝนได้ไม่เกิน 60 มิลลิเมตร/ชั่วโมง และใช้เวลาในการระบายน้ำที่ท่วมขังให้กลับสู่สภาวะปกติประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น" นายวสันต์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ กทม. โดยภาพรวมได้ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำไปแล้วร้อยละ 99.5 การขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 96.33 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 59 และ 67 ตามลำดับ
โฆษก กทม.ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของ กทม.ในช่วงสัปดาห์ก่อนว่า น้ำที่ท่วมขังเกิดจากน้ำฝนค้างทุ่งในพื้นที่ปทุมธานีไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนและได้ประสานขอเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว รวมถึงการพร่องน้ำในคลองเพื่อใช้เป็นแก้มลิง โดยคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) มีแผนจะดึงน้ำออกไปทางแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา