น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยการ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ศภช.)กล่าวถึงสถานการณ์พายุโซนร้อนแกมี (GAEMI) ที่จะพาดผ่านประเทศไทยและมีอิทธิพลในระหว่างวันที่ 4-8 ต.ค.นี้ ว่า จะมีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง อีสานตอนกลาง และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน หรือร่องความกดอากาศ ทำให้มีฝนตกกระจายต่อเนื่องแต่จะไม่หนักมาก เหมือนกับช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ได้เตือนให้จังหวัดในพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มีฝนตกสะสมต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะเช่น จังหวัดชัยภูมิ อุบลราชธานี ที่มีพื้นที่ช่วงรอยต่อติดกับเขื่อนสิรินธร สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ รัฐบาลสั่งการเตรียมความพร้อมเร่งระบายน้ำตามอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่คาดว่าพายุจะพาดผ่าน และเร่งการระบายน้ำในฝั่งตะวันออกของกทม.ตั้งแต่เขตลาดกระบัง มีนบุรี หนองจอก ไปจนถึงรอยต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเร่งระบายน้ำไปยังอ่าวไทยโดยเร็วที่สุด ด้วยการติดตั้งเรือดำน้ำ 26 ลำ พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในคลองระบายน้ำฝั่งตะวันออกด้วย และเชื่อว่าจะไม่มีสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงทำให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณฝนที่ตกลงมาจะไม่เกิน 60 มิลลิเมตร ซึ่ง กทม.จะสามารถรับมือปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาได้ โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่าจะสามารถแจ้งข่าวสารสารเตือนภัยล่วงหน้าได้ภายใน 24 ชั่วโมง และในวันนี้(3 ต.ค.) เวลา 15.00 น.จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เฝ้าระวัง โดยมีนายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เป็นประธาน เพื่อติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด