นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ กฟผ.ซึ่งมีความพร้อมรับน้ำจากอิทธิพลของพายุแกมี (Gaemi)ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุลูกนี้จะทวีกำลังแรงขึ้น และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนามในวันที่ 6 ตุลาคม 2555 จากนั้นจะเคลื่อนผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงวันที่ 5-8 ตุลาคม 2555 ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก จากนั้นภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป โดยเขื่อน กฟผ.ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้เพิ่มการระบายน้ำเพื่อเตรียมรับน้ำที่จะเข้ามาใหม่
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ในภาคตะวันตก แม้มีปริมาณน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 88 และร้อยละ 89 ของความจุ ตามลำดับ แต่ยังมีช่องว่างรับน้ำในเขื่อนศรีนครินทร์อีกประมาณ 2,000 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนวชิราลงกรณประมาณ 1,000 ล้าน ลบ.ม. โดยคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เตรียมการปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนทั้งสองในช่วงก่อนที่จะได้รับอิทธิพลจากพายุ
โดยเขื่อนศรีนครินทร์ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวชิราลงกรณปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 20 ล้าน ลบ.ม. เช่นเดียวกัน รวมปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนทั้งสองแห่งวันละ 40 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันนี้ เพื่อเตรียมช่องว่างในอ่างฯ ให้เพียงพอสำหรับรองรับน้ำจากอิทธิพลของพายุแกมี ตลอดจนปริมาณน้ำตลอดช่วงฤดูฝน
ทั้งนี้ กฟผ.ได้แจ้งข้อมูลการปรับเพิ่มการระบายไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนริมน้ำรับทราบแล้ว