นอ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือพายุ "แกมี" ในประเทศไทย ว่า ทางศูนย์ฯได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. เป็นต้นมา ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งปริมณฑล และพื้นที่ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี เรียกว่าเป็นการแจ้งข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกด้านทุกฝ่าย โดยพื้นที่ที่แจ้งเข้าสู่พื้นที่เฝ้าระวังคือภาคอีสานล่าง และในพื้นที่ที่มีผลกระทบอยู่เดิมด้วย หรือพื้นที่ที่มีผลทางอ้อมตามมาก็เตรียมความพร้อมในขั้นแจ้งข่าว รวมทั้งพื้นที่ในกทม.ที่มีน้ำในพื้นที่ก็แจ้งเตือนความพร้อม
ทั้งนี้ จะมีการแจ้งเตือนถี่ขึ้น โดยจากแจ้งข่าวเป็นเฝ้าระวัง และพื้นที่ใดที่มรสุมพาดผ่านเราได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อม และให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยและติดตามข่าวารจากทางราชการ พร้อมทั้งฟังคำแนะนำจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) จากเทศบาล จากนายอำเภอ จากผู้ว่าราชการจังหวัดเพราะจะเป็นการเตือนภัยเป็นระดับ และอย่าได้ฟังข่าวสารส่วนกลางมาเปรียบเทียบ เพราะแต่ละพื้นที่ระดับน้ำไม่เท่ากัน จะได้ไม่ตื่นตระหนก และลักษณะแจ้งเตือนก็แตกต่างกันตามพื้นที่
เรามีโครงการต่างๆ ที่ลงไปในพื้นที่ในการสร้างองค์ความรู้ ทำให้ชุมชนเป็นฐานและมีความเข้มแข็ง และมีความรู้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้รู้ว่าในพื้นที่นั้นๆมีภัยพิบัติใด และจะดูแลตัวเองได้อย่างไร อยู่ริมน้ำต้องทำตัวอย่างไร อยู่ที่สูง ที่ลาดเชิงเขาต้องทำตัวอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจหลักที่จะต้องดำเนินการ ท้องถิ่น ตั้งแต่ อำเภอ จังหวัด จะมีหน่วยงานศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจระดับอำเภอ ตำบล จังหวัด ประสานงานร่วมกัน
หัวใจหลักคือขณะนี้ทุกหน่วยงานเรามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวจับทุกข้อมูลข่าวสาร นำมาวิเคราะห์ว่าภัยคุกคามใดจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และนำมาแจ้งกับประชาชนเป็นภาษาง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ www.waterforthai.go.th และถ้ามีสิ่งใดที่ประชาชนจะแจ้งหรือขอความช่วยเหลือก็สามารถโทรมาได้ที่เบอร์ 1111 กด 5
"เราทำงานร่วมกันทุกหน่วยและวิเคราะห์สถานการณ์ร่วมกัน ทางศูนย์ฯรับข้อมูลอะไรที่เป็นภัยต่อประชาชนก็จะแจ้งประชาชน โดยแบ่งขั้นตอนเป็นขั้นตอนแจ้งข่าว ยังไม่ถีงขึ้นเฝ้าระวังหรือเตือนภัย "น.อ.สมศักดิ์ กล่าว