ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยกับการรอคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบ"พบว่า ประชาชนร้อยละ 69.0 รอคอยระบบ 3G เต็มรูปแบบมากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 31.0 ระบุว่าน้อยถึงน้อยที่สุด
โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.8 ระบุว่า หากมีการเปิดใช้ระบบ 3G เต็มรูปแบบ จะใช้ประโยชน์สังคมออนไลน์ เช่น facebook/ twitter มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 42.0 จะใช้ติดตามข่าวสารออนไลน์ และร้อยละ 37.5 จะใช้ฟังเพลง/ฟังวิทยุ/ดูหนัง (ออนไลน์)
ทั้งนี้ หากมีการเปิดให้บริการระบบ 3G เต็มรูปแบบ ประชาชนร้อยละ 73.1 ระบุว่าจะยังไม่เปลี่ยนไปใช้ทันที ขอรอดูค่าบริการ และระบบสัญญาณว่าครอบคลุมมากน้อยเพียงใดก่อน ขณะที่ร้อยละ 21.5 ระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ทันทีที่เปิดบริการ มีเพียงร้อยละ 5.4 เท่านั้นที่ระบุว่า ไม่เปลี่ยนไปใช้แน่นอน
ด้านอัตราค่าบริการ 3G เต็มรูปแบบ เปรียบเทียบกับระบบ 3G ที่ให้บริการในปัจจุบัน ประชาชนร้อยละ 55.3 อยากให้ค่าบริการถูกลงกว่าเดิม, ร้อยละ 24.9 ระบุว่าค่าบริการสามารถปรับเพิ่มได้ตามความเหมาะสม และร้อยละ 19.8 อยากให้ค่าบริการเท่าเดิม ซึ่งอัตราค่าบริการต่อเดือนสูงสุดที่ยอมรับได้ ร้อยละ 26.8 ระบุว่า ไม่ควรเกิน 500 บาท รองลงมาร้อยละ 22.1 ระบุว่าไม่ควรเกิน 300 บาท และร้อยละ 5.7 ระบุว่าไม่ควรเกิน 600 บาท
โดยปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 55.9 ใช้มือถือสมาร์ทโฟน (ในจำนวนนี้ร้อยละ 38.9 ได้เปิดใช้ระบบ 3G แล้ว) ขณะที่ร้อยละ 44.1 ใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดา แต่ร้อยละ 74.1 ระบุว่ามีความเป็นไปได้มากที่จะเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นเพื่อรองรับระบบ 3G เต็มรูปแบบ ขณะที่ร้อยละ 21.1 เห็นว่ามีความเป็นไปได้น้อย
สำหรับความมั่นใจต่อ กสทช. ว่าจะเร่งผลักดันให้มีการขยายสัญญาณ 3G เต็มรูปแบบ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนใหญ่ทั่วประเทศพบว่า ประชาชนร้อยละ 59.2 ระบุว่ามีความมั่นใจใน กสทช. มากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 40.8 มีความมั่นใจน้อยถึงน้อยที่สุด
สุดท้ายเมื่อถามว่าเทคโนโลยี 4G มีความสำคัญต่อประเทศไทยมากน้อยเพียงใดที่จะต้องรีบผลักดันให้เกิดขึ้น ร้อยละ 50.3 เห็นว่ามีความสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน ขณะที่ร้อยละ 43.6 เห็นว่ามีความสำคัญมากและเร่งด่วน และร้อยละ 6.1 เห็นว่าไม่มีความสำคัญ
ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ได้ทำการเก็บข้อมูลกับประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงวันที่ 5 - 7 ตุลาคม 2555 ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,164 คน