นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้ทุกสำนักงานเขตยังคงเตรียมพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์สภาพอากาศใน 7 วันข้างหน้าว่าในช่วงวันที่ 15-20 ต.ค.55 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้ผลกระทบในระยะต่อไป กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่
สำหรับภาพรวมการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำดำเนินการไปแล้วร้อยละ 99.5 การขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 97 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 63 และ 69 ตามลำดับ
พร้อมกันนี้ โฆษกกรุงเทพมหานครได้กล่าวถึงปัญหากระสอบทรายอุดท่อระบายน้ำว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ทยอยนำกระสอบทรายในบางพื้นที่ออกแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้ทำความเข้าใจกับวิธีการป้องกันพื้นที่น้ำท่วมด้วยกระสอบทราย พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมวิธีการบริหารจัดการน้ำของกรุงเทพมหานคร และได้พิจารณาแผนระยะยาวที่จะนำ Flap Gate หรือประตูกันน้ำไหลย้อนกลับมาติดตั้งตามท่อระบายน้ำที่มีฝาปิดตามถนน (Manhole) แทนการใช้กระสอบทราย ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว และจะทยอยติดตั้งเพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการปรับปรุงระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้งบประมาณสูง ประกอบกับท่อระบายน้ำของกรุงเทพมหานครมีอายุการใช้งานมานาน จึงจำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครให้มีศักยภาพมากขึ้น