กทม.ก่อสร้างโรงงานกำจัดมูลฝอยด้วยพลังงานความร้อนสูงแก้ปัญหาขยะล้นเมือง

ข่าวทั่วไป Tuesday October 30, 2012 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า กทม.ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงงานกำจัดมูลฝอยด้วยพลังงานความร้อนสูงขึ้นที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมือง

"แม้ว่ากรุงเทพมหานครได้ดำเนินการจัดการขยะมูลฝอยในระบบด้วยวิธีการต่างๆ โดยขยะทั่วไปกรุงเทพมหานครใช้วิธีการฝังกลบอย่างถูกหลักสุขาภิบาล(Sanitary Landfill) ใน 2 แห่ง คือ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ มีประมาณ 8,700 ตัน/วัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

กทม.จึงหาวิธีการและแนวทางจัดการขยะที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแทนวิธีการฝังกลบด้วยการลงทุนก่อสร้างโรงงานกำจัดมูลฝอยด้วยพลังงานความร้อนสูงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น หรือประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์

"เป็นวิธีที่ใช้พื้นที่น้อยเมื่อเทียบกับการฝังกลบ สามารถทำลายมูลฝอยได้เกือบทุกชนิด สามารถสร้างในพื้นที่ที่เป็นแหล่งกำเนิดขยะ ประหยัดค่าขนส่ง ส่วนที่เหลือจากการเผาไหม้จำพวกขี้เถ้า สามารถนำไปถมที่ดินหรือทำวัสดุก่อสร้างได้ เนื่องจากสามารถลดปริมาณขยะมูลฝอยได้สูงสุดถึงร้อยละ 75-95" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

นอกจากนี้ยังสามารถนำพลังงานความร้อนที่ได้ไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น นำไปต้มน้ำเพื่อนำเอาไอน้ำไปใช้ความร้อนแก่อาคารประเภทต่างๆ ตลอดจนนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเตาเผาขยะยังเหมาะสำหรับการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อจากโรงพยาบาลได้อีกด้วย

โครงการดังกล่าว กทม.ได้ว่าจ้างบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเทคชั่น(ประเทศไทย) เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและเดินระบบเตาเผามูลฝอยขนาด 300 ตัน/วัน ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งบริหารจัดการโรงงาน เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยลักษณะของเตาเผาเป็นแบบแผงตะกรับ(Stoker Type) อุณหภูมิในห้องเผาไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมกับลักษณะมูลฝอยของ กทม. และมีการใช้งานในหลายประเทศ เช่น เทศบาลนครภูเก็ตที่ดำเนินการก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 5 เมกะวัตต์ ซึ่งกระแสไฟฟ้าจากความร้อนของโครงการฯ จะส่งขายให้กับการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.)

นอกจากนั้น เตาเผาที่ กทม.ดำเนินการจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เนื่องจากมีระบบกำจัดมลพิษต่างๆ ตามหลักสุขาภิบาล ไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งได้มาตรฐานการกำจัดมลพิษทางอากาศตามกฎหมายกำหนด ในส่วนของการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น กทม.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษา บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้จัดทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น(Initial Environment Examination) ด้วยการรับฟังความคิดเห็นประชาชน และการประเมินมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย(Environment and Safety Assessment:ESA) ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 90 วัน ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา

"โครงการมีความเหมาะสมกับสภาพปัญหามูลฝอยในพื้นที่ กทม. ด้วยเทคโนโลยีในการกำจัดมูลฝอยมีความน่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการกำจัดมูลฝอยโดยการฝังกลบที่ใช้ในปัจจุบัน และเห็นว่าโครงการเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่เกิดผลกระทบต่อชุมชน" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เพื่อลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด การแยกขยะต้นทางด้วยการแยกขยะที่บ้าน เป็นหนึ่งในการลดปริมาณขยะในระบบที่เป็นวิธีการหนึ่งที่เราทำได้ เพื่อนำพาให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครแห่งสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ