มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดเผยวันนี้ว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในเดือนเม.ย.-ก.ย.ลดลง 9.9% จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 3.082 หมื่นล้านเยน จากการแข็งค่าของเงินเยนและยอดขายที่ซบเซาในยุโรปและจีน
สำหรับผลกำไรสุทธิในระยะ 6 เดือนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าแตะ 3.006 หมื่นล้านเยน โดยมีส่วนใหญ่เป็นผลมาจากกำไรจากการขายหุ้น ขณะที่ยอดขายของบริษัทลดลง 5.2% สู่ระดับ 8.5996 แสนล้านเยน
มิตซูบิชิปรับลดเป้ายอดขายทั่วโลกลง 46,000 คัน เหลือ 1.04 ล้านคันสำหรับช่วงตลอดปีธุรกิจดังกล่าว
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2555 ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.นั้น ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิทั่วโลกลดลง 8% จากปีก่อนหน้านี้ สู่ระดับ 478,000 คัน และเมื่อแบ่งตามภูมิภาค ยอดขายในยุโรปลดลง 23% อยู่ที่ 90,000 คัน ขณะที่ยอดขายในอเมริกาเหนือลดลง 29% แตะ 43,000 คัน โดยการแข็งค่าของเงินเยนได้ส่งผลกระทบกลุ่มผู้ส่งออก ขณะที่ยอดขายในจีนลดลง 35% เหลือ 22,000 คัน
ทั้งนี้ มิตซูบิชิปรับลดเป้ายอดขายในจีนตลอดปีธุรกิจปัจจุบัน ลง 31,100 คน สู่ระดับ 42,000 คัน เนื่องจากบริษัทเผชิญยอดจำหน่ายที่ชะลอตัวในจีน จากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ตึงเครียดระหว่างสองประเทศ จากข้อพิพาทด้านดินแดนของหมู่เกาะเซนกากุ หรือหมู่เกาเตียวหยูในทะเลจีนตะวันออก
สำหรับช่วงตลอดปีธุรกิจหน้า มิตซูบิชิได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายเหลือ 1.83 ล้านล้านเยน เมื่อเทียบกับการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 1.98 ล้านล้านเยน แต่เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
มิตซูบิชิยังคงคาดการณ์ผลกำไรสุทธิไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านเยน ซึ่งร่วงลง 45.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 8 หมื่นล้านเยน ซึ่งลดลง 25.6% สำนักข่าวเกียวโดรายงาน