นอกจากนี้ยังได้ประสานงานไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อหารือที่จะนำน้ำใต้ดินมาใช้ โดยทางกรมน้ำบาดาล ดำเนินการขุดเจาะน้ำมาดาลมาใช้เพื่อการการเกษตรในบางพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้คงจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค โดยดูปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีน้ำที่พร้อมใช้ประมาณ 40 % จากปริมาณน้ำในเขื่อนโดยรวมที่มีอยู่ประมาณ 70 % ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯได้ประสานงานการบริหารจัดการน้ำ จากคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) โดยในส่วนของกระทรวงเกษตรฯได้มีการเตรียมประชุมคณะกรรมการนโยบายการปลูกพืชฤดูแล้งในวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
นายยุคล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปีนี้ ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่าทางจังหวัดได้ประกาศพื้นที่จังหวัดภัยแล้งแล้ว 7 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำพู และมุกดาหาร มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 1,110,556 ไร่ ประชาชนได้รับความผลกระทบ 121,448 ราย แบ่งเป็นนาข้าว 46,972 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมการที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยา เงินชดเชย ตามระเบียบกระทรวงการคลังที่มีอยู่ และในเบื้องต้นทางจังหวัดสามารถที่จะให้การช่วยเหลือตามอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเฉพาะหน้าในการแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว