ดังนั้น สคบ.จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งศึกษาแนวทางการควบคุม โดยให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายอิสระต้องผ่านการทดสอบความรู้จากสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการขายตรง ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับตัวแทนธุรกิจประกันที่ต้องผ่านการทดสอบก่อน จากนั้นจึงออกบัตรประจำตัว เพื่อรับรองว่าตัวแทนดังกล่าวมีความรู้ความเชี่ยวชาญและพร้อมจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคได้
เลขาธิการ สคบ. กล่าวว่า จะดูรูปแบบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่สอบคัดเลือกตัวแทนขายประกันมาเป็นแนวทาง ส่วนการเขียนกฎหมาย, หลักเกณฑ์ และรายละเอียดนั้น อาจดำเนินการในรูปแบบของการออกกฎกระทรวง คาดว่าใช้เวลาไม่นานจะมีผลบังคับใช้ได้
"หากมีข้อกฎหมายฉบับนี้ออกมา ก็น่าเป็นผลดีต่อไทยที่จะยกระดับมาตรฐานธุรกิจขายตรงขึ้นมาให้มีคุณภาพ และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น" นายจิรชัย กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลล่าสุดของสคบ. พบว่าตั้งแต่ปี 45-55 มีผู้ประกอบการขายตรงจดทะเบียนดำเนินธุรกิจกับสคบ.ไว้ 852 ราย ซึ่งจากการที่ สคบ.ได้ส่งหนังสือเพื่อขอคำยืนยันสถานภาพการดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบการ พบว่ามีบริษัทแจ้งกลับมาว่ายังเปิดดำเนินธุรกิจอยู่ 180 ราย ส่วนมากเป็นรายใหญ่และมีชื่อเสียง ส่วนอีก 35 รายเลิกกิจการไปแล้ว นอกนั้นที่เหลือยังไม่มีการรายงานแจ้งกลับมา