"ปัญหาค่ารักษาพยาบาลต่างด้าวของโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนต่างๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการรวบรวมข้อมูลใน 57 จังหวัด ตั้งแต่ปี 2553-2555 ไทยมีค่ารักษาต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ พม่า ลาว และกัมพูชา รวมทั้งหมด 1,189 ล้านกว่าบาท" นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข กล่าว
ขณะที่ผลการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวก่อนออกใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย เมื่อปี 54 ตรวจทั้งหมด 855,198 คน พบว่ามีโรคที่ต้องติดตามให้การรักษา เช่น วัณโรค, มาลาเรีย, โรคเท้าช้าง และโรคเรื้อน รวมทั้งหมด 6,195 คน และพบโรคต้องห้ามไม่ให้ทำงาน 594 คน ในจำนวนนี้พบเป็นผู้เสพสารเสพติดมากที่สุด 358 คน วัณโรคระยะติดต่อ 179 คน และโรคซิฟิลิสระยะที่ 3 จำนวน 15 ราย
"การพบโรคติดต่อเหล่านี้ ส่งสัญญาณอาจเกิดโรคระบาดในประเทศที่มาจากแรงงานต่างด้าวได้ หากไม่มีระบบป้องกันและควบคุมดีพอ รัฐบาลและกระทรวงสาธารณได้เร่งแก้ไขและเตรียมการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน" นพ.ชลน่าน กล่าว
สำหรับมติ ครม.เมื่อวันที่ 15 ม.ค.56 ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพดูแลต่างด้าวที่ระบบประกันสังคมไม่ได้คุ้มครอง โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะกรรมการอำนวยการด้านสาธารณสุขในประชากรต่างด้าว มีผู้บริหารจากในและนอกกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง เช่น กทม. สำนักงานประกันสังคม องค์การอนามัยโลก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ กรอบนโยบายดำเนินงานสาธารณสุขสำหรับประชากรต่างด้าว ตามนโยบายรัฐบาล 2.คณะทำงานด้านการสาธารณสุขในประชากรต่างด้าว ในการจัดบริการการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในประชากรต่างด้าว มี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อวางระบบการดูแลครอบคลุมทั้งการดูแลการเจ็บป่วย และการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมป้องกันโรค