สธ.ประสานทุกเหล่าทัพเป็นพื้นที่ปลอดเหล้า,14 ก.พ.ปูพรมตรวจจับโฆษณาเหล้า

ข่าวทั่วไป Wednesday February 13, 2013 16:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ลงนามความร่วมมือกับ พล.อ.อ.วินัย เปล่งวิทยา รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.อ.ธัชชัย ถนัดใช้ปืน รองเสนาธิการทหาร ตัวแทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.), พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ, พล.อ.อ.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก เพื่อกำหนดให้พื้นที่ในสถานที่ราชการของ 4 หน่วยงานดังกล่าวปลอดเหล้า ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่กำลังพลที่อยู่ในสังกัด รวมทั้งครอบครัวและประชาชนทั่วไปด้วย โดยทุกหน่วยงานจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 4 ประการ ดังนี้ 1.จัดให้สถานที่ราชการ และสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแล ปลอดการขายและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด 2.ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแล และ 3.ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในเฉพาะในร้าน หรือสโมสรที่เปิดให้บริการเป็นประจำหรือถาวร และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากสถานที่ราชการนั้นๆ เท่านั้น และ 4.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และให้ขายได้เฉพาะเวลาที่กำหนดในกฎมายเท่านั้น คือเวลา 11.00-14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00-24.00 น.

"ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง ช่วยกันตรวจตราและเอาผิดผู้ที่ละเมิดกฎหมาย รวมทั้งลงพื้นที่ตรวจใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามร้านค้าในชุมชนหรือบริเวณใกล้เคียง และเฝ้าระวังการละเมิดกฎหมายด้วย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ประชาชนทั่วไป และเยาวชนที่จะเติบโตไปเป็นอนาคตที่เข้มแข็งของชาติ" นพ.ณรงค์ กล่าว

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากประกาศใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.51 รวมเป็นเวลา 5 ปี พบว่าปัญหาที่พบได้บ่อยและมีการกระทำผิดกฎหมายจนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ คือการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางป้าย ป้ายไฟ ติดตั้งอยู่ข้างทาง หรือตามหน้าร้านอาหารทั่วประเทศ และการส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถม ชิงโชคชิงรางวัล พบว่ามีการทำผิดซ้ำซากมากเป็นอันดับ 1

"ปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องนี้ ดีเดย์ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นไป เนื่องจากการโฆษณาจะเป็นช่องทางที่ทำให้ประชาชนหรือเยาวชนรู้จักยี่ห้อเครื่องดื่ม และจำตราสินค้าได้แม้จะเป็นแค่สีหรือเป็นเงาสัญลักษณ์ของยี่ห้อเครื่องดื่ม โดยได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอทั่วประเทศ รวมประมาณ 900 แห่ง ตรวจจับอย่างจริงจังบนถนนทุกเส้นในพื้นที่เมืองและชนบท หากพบการกระทำผิดให้แจ้งความดำเนินคดีได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือรวบรวมหลักฐานส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เพื่อส่งฟ้องศาลดำเนินคดีทุกราย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากยังมีการฝ่าฝืนอยู่ จะมีโทษปรับรายวัน วันละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ส่วนการส่งเสริมการตลาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นพ.ณรงค์ กล่าว

ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลสำรวจสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในครอบครัวไทยกลุ่มที่อยู่ในชานเมืองล่าสุดในปี 2555 โดยนักวิชาการเครือข่ายเฝ้าระวังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่า เด็กอายุ 12 ปี จะรู้จักผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 12 ชนิด 15 ยี่ห้อ และรู้ราคา 7 ยี่ห้อ แสดงถึงการโฆษณามีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเด็กอย่างชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ