โดยพบว่าประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.1 ทราบว่าวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้คือวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ส่วนที่ไม่ทราบมี 28.9 %
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าทราบถึงหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงในวันมาฆบูชา ปรากฏว่ามีถึง 81.6% มีเพียงร้อยละ 18.4 ที่ระบุทราบและตอบได้คือ โอวาทปาติโมกข์ ยิ่งไปกว่านั้น และในกลุ่มคนที่ตอบได้ถูกต้องว่าคือ โอวาทปาติโมกข์นั้นมีเพียง 38.9% ที่ตอบได้ว่าเนื้อหาสาระคือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ในขณะที่ 61.1% ตอบไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาสาระธรรมของโอวาทปาติโมกข์
อย่างไรก็ตาม ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่หรือ 88.8% ตอบได้ว่า “ความดี" ที่ตั้งใจจะทำในวันมาฆบูชาอันดับแรกคือ การทำบุญตักบาตร รองลงมาคือ 88.1% ดูแลเอาใจใส่คนในครอบครัว 73.9% ระบุมีความเมตตา กรุณา มีน้ำใจ ให้อภัยผู้อื่น ในขณะที่ 61.9% ระบุไปเวียนเทียน 45.1% ระบุถวายสังฆทาน 40.2% ระบุฟังธรรมเทศนา 39.0% ระบุทำความสะอาดบ้าน 26.7% ระบุช่วยทำประโยชน์ต่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ และ 16.3% ระบุอื่นๆ เช่น ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ทำทานสงเคราะห์ผู้อื่น เป็นต้น
เมื่อถามถึง “ความชั่ว" ที่จะละเว้น และจะชักชวนคนอื่นให้ละเว้นในวันมาฆบูชา พบว่า ส่วนใหญ่ 81.4% ระบุ ไม่เบียดเบียน ไม่ทำร้าย ไม่ใส่ร้ายผู้อื่น รองลงมาคือ 72.6% ไม่โกรธ ไม่โมโห 68.1% ไม่พูดโกหก ไม่ทุจริตคดโกง 59.8% ไม่เล่นการพนัน 59.5% ไม่ทะเลาะวิวาทผู้อื่น 56.3% ไม่ลักขโมย 52.9% เลิกแบ่งสี เลิกแตกแยกกันในหมู่ประชาชน 48.9% ไม่ดื่มเหล้า 47.7% ไม่นอกใจคู่รัก 32.8% เลิกสูบบุหรี่ และ 20.5% ระบุอื่นๆ เช่น ไม่นินทาว่าร้าย ไม่รังแกสัตว์ ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่น เป็นต้น
เมื่อถามถึงวิธีที่แสดงออกถึงความมีจิตใจที่บริสุทธิ์ของคนคืออะไรบ้าง พบว่า 93.5% ระบุ รอยยิ้ม 65.9% ระบุแววตา 60.7% ระบุสีหน้า ใบหน้า 58.2% ระบุกิริยาท่าทาง 51.4% ระบุสำเนียง การพูด และ 9.2% ระบุอื่นๆ เช่น การกระพริบตา การมีสมาธิ ปัญญา สติ เป็นต้น และผลสำรวจยังพบด้วยว่า 92.7% เห็นว่ารัฐบาลควรดำเนินการส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนาให้มากขึ้นกว่านี้