ประเด็นข่าวร้อนทางการเมืองที่ประชาชนคนกรุงเทพมหานครกำลังให้ความสนใจ พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.4 สนใจข่าวการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับมาเลเซียเรื่องความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รองลงมาคือ ร้อยละ 58.0 สนใจข่าวการแก้ปัญหายาเสพติด ร้อยละ 33.5 สนใจข่าววิกฤตพลังงานไฟฟ้าช่วงเดือนเมษายนที่จะมาถึงนี้ ร้อยละ 32.7 สนใจข่าวทุจริตคอรัปชั่นการสร้างโรงพัก ในขณะที่ร้อยละ 26.2 สนใจข่าวกรณี กกต. ยังไม่รองรับผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ร้อยละ 25.8 สนใจข่าวคดีประสาทเขาพระวิหาร ร้อยละ 22.7 สนใจข่าว พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร้อยละ 19.7 สนใจข่าวเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ร้อยละ 17.2 สนใจข่าวการไกล่เกลี่ยคดีหมิ่นประมาทระหว่างนายอภิสิทธิ์กับนายจตุพร และร้อยละ 13.2 สนใจข่าวรัฐมนตรีถอดสูทใส่ชุดผ้าไทยเพื่อประหยัดพลังงาน
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.1 เชื่อว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีทุจริตคอรัปชั่นด้วยกันทั้งนั้น และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.8 คิดว่าความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองใหญ่จะรุนแรงบานปลายขึ้นอีก ในขณะที่ร้อยละ 31.2 ไม่คิดว่าจะขัดแย้งรุนแรง โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.9 ระบุแนวโน้มของความขัดแย้งในสถานการณ์การเมืองระดับชาติจะกลับมารุนแรงเหมือนเดิมถึงรุนแรงมากขึ้นเพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาค่าครองชีพ เป็นต้น
ความรู้สึกของประชาชนหลังการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. เมื่อฝ่ายการเมืองนำประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการนิรโทษกรรมทางการเมืองมาถกเถียงกัน พบว่า ครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.0 รู้สึกเบื่อถึงเบื่อมากที่สุด ในขณะที่ร้อยละ 36.7 รู้สึกเฉยๆ และร้อยละ 13.3 รู้สึกไม่ค่อยเบื่อถึงไม่เบื่อเลย ที่น่าสนใจคือ คนกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.8 ระบุประชาชนควรให้ความเคารพความรู้สึกต่อกันและกันเกี่ยวกับคะแนนของผู้สมัครจากทั้งสองพรรคการเมืองที่ได้เกินล้านคะแนนด้วยกันทั้งคู่
ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงเพราะประชาชนที่ไม่ฝักใฝ่ทางการเมือง ไม่เลือกข้างแต่จะถูกแบ่งแตกแยกออกเป็นสองข้างที่มากพอๆ กัน แต่ที่น่าสนใจคือจากการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่า ที่จริงแล้วประชาชนส่วนใหญ่สนใจติดตามข่าวสารทางการเมืองและรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดในทางการเมืองจึงประกาศตนว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด และส่วนใหญ่ก็ไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบโดยขอให้แนวทางการแก้ไขทุกปัญหาทางการเมืองเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมและสันติวิธี