ส่วนที่ 2 เป็นการสร้างโอกาสบนชุดความรู้ นำความรู้จากเกษตรกรถึงประชาชน โดยการเปิดการเรียนการสอนอาชีพพื้นฐานโดยการแปรรูปผลิตผลการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การทำหมูทุบระดับโกอินเตอร์ การปรุงสมุนไพรเป็นยาและเครื่องสำอาง อย่างลูกประคบ แชมพู สบู่อาบน้ำ จากหมอยาปราชญ์ชาวบ้าน การทำทองหยอด ฝอยทอง การสานตะกร้า ซึ่งทั้งหมดนี้สอนฟรีเรียนฟรี มีของติดมือกลับบ้าน
และ ส่วนที่ 3 ถือเป็นอีกไฮไลท์หนึ่งของการจัดงานครั้งนั้น เป็นการยกผลผลิตการเกษตรจากเกษตรกรมาเปิดตลาด นำสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ และสินค้ามาตรฐานระดับส่งออก ซึ่งนอกจากความหลากหลายของสินค้าเกษตรที่จะมีมาให้เลือกชิม เลือกซื้อแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้เข้าชมงานจะมีโอกาสได้รู้ว่าประเทศไทยมีศักยภาพการผลิตสู่การเป็นครัวของโลก และมีแนวทางการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงอย่างได้ นอกจากนี้ยังจะได้รู้ว่าทิศทางการพัฒนางานด้านการเกษตรของไทยนับจากนี้จะเดินทางไปทางไหน