"เป็นการเตรียมผนึกกำลังความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดช่วงระยะเวลาการจัดงานประเพณีสงกรานต์หาดใหญ่ โดยหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมประชุมได้มีการบูรณาการร่วมกันในการเตรียมการดูแลด้านความปลอดภัยตามจุดต่างๆ ในพื้นที่การจัดงาน ทั้งบริเวณใจกลางเมือง แหล่งเศรษฐกิจ ตลอดจนพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่โดยรอบ รวมทั้งการเฝ้าระวังเหตุทะเลาะวิวาท การก่ออาชญากรรม และการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่" นายไพร กล่าว
ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยประจำและหน่วยลาดตระเวนตามจุดต่างๆ ได้แก่ ชุดกำลังพลเคลื่อนที่เร็วจากชุดเฉพาะกิจพิทักษ์เมืองหาดใหญ่(Hatyai City Cop) ปฏิบัติงานควบคู่ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ เพื่อทำการเฝ้าระวังในพื้นที่ ตลอดจนตรวจสอบเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลต้องสงสัย
ส่วนกองกำลังจากมณฑลทหารบกที่ 42, ชุดอโนทัย, ชุด EOD ที่จะดูแลด้านความปลอดภัยในการเฝ้าระวังการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบ ตลอดจนหน่วยทหารพรานหญิง ชุดสุนัขสงคราม, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.), หน่วยวิทยุสื่อสาร, ศูนย์วิทยุอินทรีย์ เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการตรวจตราความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ทั่วเมืองหาดใหญ่
"เทศบาลนครหาดใหญ่เดินหน้าเข้มงวดในการเตรียมความพร้อมด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมความสนุกในเมืองหาดใหญ่ และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของเมืองหาดใหญ่ให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย" นายไพร กล่าว
ขณะที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบัตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กล่าวว่า ช่วงเดือน เม.ย.ที่มีการก่อเหตุความรุนแรงมาก เนื่องจากเดือนนี้มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของผู้ก่อความไม่สงบ ดังนั้นในส่วนของประชาชนเองจะต้องป้องกันตัวเองและช่วยกันระมัดระวังการก่อความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับทาง กอ.รมน.ภาค 4 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยดูแลประชาชน แต่ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ดูแลตัวเองด้วย
"ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีรายงานข่าวว่าจะมีการก่อเหตุ ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงได้กำชับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย" พล.ท.ภราดร กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ในพื้นที่ 9 อำเภอของ จ.ปัตตานี จำนวน 36 จุด ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 6 นาย
พื้นที่ อ.เมืองปัตตานี เกิดเหตุระเบิดเรือประมง 2 จุด โดยเรืออวนลากได้รับความเสียหาย ขณะที่เรือปั่นไฟจมลงและเรืออวนลากอีกลำที่จอดติดกันได้รับความเสียหาย, พื้นที่ อ.ยะรัง เกิดเหตุเผายางรถยนต์บนถนนสาย 410 จำนวน 9 จุด ได้แก่ ต.ยะรัง 3 จุด, ต.ประจัน 1 จุด, ต.เมาะมาวี 1 จุด, ต.เขาตูม 1 จุด และ ต.กอลำ 3 จุด
พื้นที่ อ.โคกโพธิ์ เกิดเหตุเผาสัญญาณโทรศัพท์จำนวน 2 จุดได้รับความเสียหาย และเผายางรถยนต์จำนวน 2 จุด, พื้นที่ อ.กะพ้อ เกิดหตุ 5 จุด ได้แก่ คนร้ายกราดยิงใส่ป้อมชุดคุ้มครองตำบล(ชคต.) แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เผาป้อมชุดคุ้มครองตำบล(ชคต.) 2 จุดได้รับความเสียหาย(อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) เผาร้านมินิมาร์ท เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์
พื้นที่ อ.ปะนาเระ เกิดเหตุ 3 จุด ได้แก่ คนร้ายยิงใส่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครขณะปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ศูนย์อาหารฮาลาล แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ วางระเบิดตู้โทรศัพท์หน้าที่ทำการไปรษณีย์ เสียหาย และระเบิดตู้โทรศัพท์เสียหายจำนวน 2 ตู้, พื้นที่ อ.สายบุรี เกิดเหตุ 7 จุด ได้แก่ คนร้ายขว้างระเบิดขวดใส่ประตูบ้านราษฎรได้รับความเสียหาย เผาเสาสัญญาณโทรศัพท์ ขว้างระเบิดใส่เรือประมง ลอบวางเพลิงศูนย์ศิลปาชีพบ้านปาตาตีมอ ยิงรบกวนฐาน ร้อย.ทพ.4116 ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และโปรยตะปูเรือใบ
พื้นที่ อ.ไม้แก่น เกิดเหตุ 4 จุด ได้แก่ เผาอาคารสหกรณ์การเกษตร เผากล้องวงจรปิดเสียหาย และเผาเสาสัญญาณโทรศัพท์, พื้นที่ อ.มายอ มีการเผารถยนต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหาย 2 คัน
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 21.10 น.ของเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่บ้านท่าสู อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 นาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะเดินทางด้วยรถยนต์หุ้มเกราะรีว่าจำนวน 2 คัน เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ ชป.อส. และตรวจสอบเหตุที่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ ชป.อส.อ.ปะนาเระ ซี่งปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ศูนย์อาหารฮาลาล เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องทำให้รถยนต์หุ้มเกราะได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ได้รายงานสถานการณ์ดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีรับทราบแล้ว และได้กำชับให้กำลังพลในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวังมากขึ้น ไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติการทางการทหารอย่างเต็มที่เหมือนในพื้นที่สงครามอื่นๆ เนื่องจากกระบวนการนี้จะกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน