สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ ร้อยละ 39.95 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 22.90 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 76.92 รถปิคอัพ ร้อยละ 13.15 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 21.93 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 67.43 บนถนน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 38.42 ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 35.11 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 30.28 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 55.48
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,343 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 69,184 คน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 122,248 ราย โดยมีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 39,368 ราย รองลงมา ไม่มีใบขับขี่ 34,144 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (18 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ระยอง (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (20 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 5 วัน (วันที่ 11 — 15 เมษายน 2556) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,290 ครั้ง (ปี 2555 เกิด 2,581 ครั้ง) ลดลงร้อยละ 11.27 ผู้เสียชีวิตรวม 255 ราย (ปี 2555 เสียชีวิต 253 ราย) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.79 ผู้บาดเจ็บรวม 2,439 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ 2,751 คน ) ลดลงร้อยละ 11.34 จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) รวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ชัยภูมิ ตราด นนทบุรี ปัตตานี ภูเก็ต ยะลา ระนอง อ่างทอง และอำนาจเจริญ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (86 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี (11 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (87 คน)
หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้คาดว่าประชาชนจำนวนมากอยู่ในระหว่างเดินทางกลับ จึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนสนธิกำลังปฏิบัติการลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น เน้นหนักถนนสายหลักเป็นพิเศษ โดยบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดในข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ขอให้ปรับแผนการปฏิบัติงาน โดยเน้นเส้นทางขาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อระบายการจราจรให้มีความคล่องตัว อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง
นอกจากนี้ ให้กำชับจุดตรวจเข้มงวดกวดขันพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท รถตู้โดยสาร รถรับจ้างไม่ประจำทาง ซึ่งต้องมีความพร้อมในการขับรถตลอดเวลา และระดับแอลกอฮอล์เป็น “ศูนย์" กรณีเดินทางระยะไกล มากกว่า 400 กิโลเมตร ต้องจัดให้มีพนักงานขับรถ 2 คน เพื่อผลัดเปลี่ยนการขับรถ ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุใหญ่