สคบ.เตือนผู้บริโภคซื้อทองคำอย่างรอบคอบ เข้มร้านทองแจ้งฉลากชัดเจน

ข่าวทั่วไป Thursday April 18, 2013 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจิระชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เปิดเผยว่า ตามที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างมากในระยะนี้ส่งผลให้ประชาชนแห่ไปซื้อทองคำกันเป็นจำนวนมาก ทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณนั้น สคบ.ฝากเตือนไปยังผู้บริโภคว่าต้องมีความรอบคอบในการซื้อด้วย โดยเฉพาะเมื่อตัดสินใจซื้อแล้วต้องให้ร้านชั่งน้ำหนักให้เห็นชัดเจน ซึ่งทองคำ 1 บาท ต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 15.16 กรัม
"สังเกตว่า ต้องมีทศนิยม 2 ตำแหน่ง และไม่ว่าน้ำหนักจะอยู่ที่ 15.17 กรัม 15.18 กรัม 15.19. กรัม และ 15.20 กรัม ถือเป็นทอง 1 บาททั้งหมด ที่สำคัญตราชั่งที่ใช้นั้น ต้องมีความเสถียรที่ 0.00 หน่วย...ให้สังเกตด้วยว่า ทองคำที่ซื้อนั้นต้องมีตราประทับของโรงงาน ซึ่งโรงงานที่ผลิตทองคำในประเทศไทย มีทั้งสิ้น 64 แห่ง ในกรุงเทพฯ 61 แห่ง จ.ตรัง 1 แห่ง จ.สงขลา 1 แห่ง และ จ.ขอนแก่น 1 แห่ง" เลขาธิการ สคบ.กล่าว

พร้อมระบุว่า โรงงานทำทองทั้ง 64 แห่งนี้ สคบ.ได้เข้าไปตรวจสอบและให้การรับรองมาตรฐานของทองคำที่ผลิตว่ามีสัดส่วนทองคำที่ 96.5% ทั้งหมด

ทั้งนี้ ก่อนจะซื้อทองคำประชาชนควรสังเกตด้วยว่า ร้านทองนั้นได้ติดสลากสินค้าถูกต้องและชัดเจน ซึ่งมี 5 อย่างคือ 1.มีการแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด 2.มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล 3.มีการระบุชัดเจนว่ามีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99% 4.ที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต 5.ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจน

นายจิระชัย กล่าวด้วยว่า หากพบเห็นร้านทองใดไม่แสดงฉลากตามที่กำหนดให้ครบทุกอย่างข้างต้น ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน สคบ.โทร.1166 ซึ่งร้านทองดังกล่าวจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท โดยสคบ.จะดำเนินการอย่างจริงจังและไม่มีการเตือนเช่นที่ผ่านมา เพราะได้ให้เวลามานานแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ