"ตามแผนการรองรับผู้บาดเจ็บดังกล่าวได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและสั่งการด้านสาธารณสุขที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จ.สงขลา ทำหน้าที่ประสานการส่งต่อผู้ป่วย และเตรียมความพร้อมของสถานบริการทางการแพทย์ทั้งในระดับจังหวัดและระดับเขตตลอด 24 ชั่วโมง สามารถระดมทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง และโรงพยาบาลทั่วไปในแต่ละจังหวัด รวมทั้งโรงพยาบาลศูนย์ภายในเขต พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ออกไปช่วยเหลือที่โรงพยาบาลชุมชนในที่เกิดเหตุ หากเกิดกรณีมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยมอบให้โรงพยาบาลชุมชนทำหน้าที่เป็นห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินของโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ทำผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนได้ เพื่อรักษาชีวิตและอวัยวะ และให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สำรองเตียงร้อยละ 5 เพื่อรองรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบได้ตลอดเวลา" นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การส่งต่อผู้ป่วยจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยจะติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารทางการแพทย์ประจำรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงทุกคัน สามารถส่งข้อมูลของผู้ป่วยขณะนำส่งไปโรงพยาบาลทั่วไปหรือโรงพยาบาลศูนย์ที่เป็นศูนย์รับส่งดูแลต่อ ได้แก่ รพ.ปัตตานี, รพ.นราธิวาส, รพศ.ยะลา, รพศ.หาดใหญ่ และรพ.ศรีนครินทร์ เพื่อรายงานข้อมูลและภาพผู้ป่วยที่เป็นปัจจุบัน(real time medical monitor) ให้ทีมแพทย์ใน รพ.ปลายทางเตรียมการช่วยเหลือ ตั้งแต่ที่ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องผู้ป่วยหนัก หรือเตียงรองรับผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที กรณีที่จำเป็นให้ขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำส่งผู้ป่วยและทีมแพทย์จากหน่วยงานข้างเคียงได้ ทั้งจากศูนย์แพทย์ทหารบกชายแดนใต้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ภาค 4 ทั้งในส่วนของกองทัพบก กองทัพอากาศ หรือจากกองบินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
"ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมทำบันทึกข้อตกลงในการปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินด้วยอากาศยาน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยวิกฤตและฉุกเฉิน นำส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่เหมาะสม อย่างรวดเร็วที่สุด" นพ.ณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.ที่ผ่านมา โรงพยาบาลในพื้นที่ 37 แห่งของกระทรวงสาธารณสุขได้ออกปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ 208 ครั้ง ใช้เวลานำส่งเฉลี่ยประมาณ 30 นาที ร้อยละ 99 นำส่งโดยรถพยาบาล