นายชวลิต ชูขจร ปลัด
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้
กรมชลประทานเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการน้ำใน
เขื่อนและอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ให้กระทบต่อพื้นที่
เกษตรกรรม โดยยึดหลักการจัดสรรน้ำให้ทั่วถึง เป็นธรรมและยั่งยืน
สำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ สำหรับพื้นที่ในเขตชลประทาน สามารถบริหารจัดการน้ำได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ แต่สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทานซึ่งไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนที่ชัดเจน
กรมชลประทานได้เตรียมการช่วยเหลือ
เกษตรกร โดยการสนับสนุนเครื่องจักรกลเครื่องมือที่มีอยู่คอยช่วยเหลือ เช่น รถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำ ซึ่งขณะนี้ ได้ดำเนินการจัดสรรไปยังพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งแล้ว
“ในช่วงฤดูแล้ง กระทรวงฯ มีการประเมินศักยภาพน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำต่างๆ สนับสนุนการใช้น้ำในภาคต่างๆในฤดูแล้ง เช่น เพื่อการเกษตร อุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศน์และอื่นๆ นอกจากนี้จะต้องสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนเพื่อช่วยเหลือการทำนาปีต้นฤดูฝน และยังมีแผนการจัดสรรน้ำและแผนเป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำต่างๆ ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน พร้อมกำหนดระยะเวลา การส่งน้ำและเก็บสำรองน้ำไว้ส่วนหนึ่งสำหรับการเพาะปลูกพืชในฤดูฝนและฤดูแล้งปีถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศจะไม่ให้ขาดน้ำอย่างเด็ดขาด ส่วนปริมาณน้ำต้นทุนที่เหลือจะจัดสรรเพื่อการเกษตร ซึ่งจำนวนของพื้นที่เพาะปลูกจะผันแปรไปตามปริมาณน้ำต้นทุนในแต่ละปี"นายชวลิต กล่าว
อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--