สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้จะมีกว่า 1,000 คน โดยระดับผู้นำที่สำคัญ ได้แก่ พระราชาธิบดีแห่งบรูไน, ประธานาธิบดีจอร์เจีย, ประธานาธิบดีอิหร่าน, ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน, นายกรัฐมนตรีบังคลาเทศ, นายกรับมนตรีลาว, นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้, นายกรัฐมนตรีวานูอาร์ตู, นายกรัฐมนตรีฟิจิ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาเชียงใหม่ (Chiang Mai Declaration) สำหรับการประชุมระดับผู้นำ ด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 2 (The 2nd Asia-Pacific Water Summit: 2 nd APWS) โดยเห็นชอบเอกสารร่างปฏิญญาเชียงใหม่(Chiang Mai Declaration) ที่ผู้นำประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ร่วมแสดงเจตนารมณ์ โดยไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาที่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายต่อประเทศใดๆ และให้แถลงร่างปฏิญญาดังกล่าวประกอบการประชุมระดับผู้นำ (Leaders Forum) ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2556
ทั้งนี้ สาระสำคัญของปฏิญญาเชียงใหม่(Chiang Mai Declaration) ไม่ได้เป็นหนังสือสัญญาที่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายต่อประเทศใดๆ แต่เป็นการแสดงเจตนารมณ์และแสดงออกร่วมกันว่าผู้นำของประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เล็งเห็นความสำคัญเรื่องน้ำ รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความพยายามร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งในภาวะปกติเพื่อให้การใช้น้ำเกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นภาวะเผชิญเหตุภัยพิบัติ เพื่อให้ทุกประเทศอยู่รอดในภาวะที่คาดเดาได้ยากอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และทุกประเทศแสดงออกถึงความเต็มใจที่ช่วยเหลือกันในยามเกิดภัยพิบัติ
ในโอกาสนี้จะมีการเดินทางมาเยือนและหารือระดับทวิภาคีของไทย-ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน และไทย-นายกรัฐมนตรีวานูอาร์ตู ตลอดจนการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไทย-ลาว ในช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค.56 ส่วนช่วงบ่ายเป็นการแข่งขันกอล์ฟระหว่าง ครม.ไทย-ลาว
พร้อมๆ กันนี้จะมีการแสดงที่เวียงกุมกาม, การแสดงและจำหน่ายสินค้าโอทอป ซึ่งภายหลังประชุมเสร็จก็จะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลศูนย์การประชุมฯ เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม