คณะกรรมการสาธารณสุขและวางแผนครอบครัวของจีนได้รายงานดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ WHO ได้ลงพื้นที่การประเมินเชื้อไวรัสดังกล่าวนานนับสัปดาห์
รายงานระบุว่า เชื้อไวรัส H7N9 มีการติดเชื้อได้มากกว่าในระยะเวลาที่สั้นกว่า เมื่อเทียบกับเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆ และเชื้อไวรัส H7N9 บางส่วนได้แสดงการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ซึ่งหมายความว่าเชื้อได้ปรับตัวจนสามารถแพร่ระบาดได้มากกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์อื่นๆ
นอกจากนี้ WHO ยังได้เสนอคำแนะนำหลายประการแก่รัฐบาลจีน ซึ่งรวมถึงการยังคงเฝ้าระวัง แม้ว่าเชื้อได้อ่อนแรงลงตามฤดูกาลในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวได้ก่ออันตรายที่รุนแรงและยังคงไม่ทราบถึงข้อมูลพื้นฐานอีกจำนวนมาก
รายงานยอมรับว่ายังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดในสัตว์ปีกมีชีวิตเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญประการหนึ่ง
เมื่อเดือนที่แล้ว WHO ได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญร่วมมายังจีนเพื่อสำรวจพื้นที่พบเชื้อ H7N9 ในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งเพื่อทำการประเมินเชื้อดังกล่าวเป็นเวลานานนับสัปดาห์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลสถิติของทางการจีนระบุว่าตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.เมื่อมีรายงานการติดเชื้อ H7N9 รายแรกจนถึงวันที่ 13 พ.ค.นั้น จีนได้ยืนยันการติดเชื้อไวรัส H7N9 จำนวนทั้งสิ้น 130 ราย โดยเสียชีวิตไปแล้ว 35 ราย และ 57 รายมีอาการดีขึ้นและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้